รุ่นไหนดี 9 อันดับ ลิปสติกสีชมพู มีที่ไหน อัพเดทล่าสุดปี 2567

ช้อปสบายๆ ในราคาสุดคุ้ม ชวนคุณมาช้อปออนไลน์กับสินค้าคุณภาพดี จากหลากหลายแบรนด์ดัง มีคูปอง จัดส่งฟรี ส่งด่วน การชำระเงินที่ปลอดภัย อัพเดท รายละเอียดแบรนด์ โปรโมชั่น ส่วนลด คูปองส่วนลด สำหรับการสั่งครั้งแรก โปรฯแบรนด์ดังทุกหมวดหมู่ลดเยอะมาก
คุณภาพดี ราคาที่ไม่แพง เราแนะนำเลยเจ้านี้ ลิปสติกสีชมพู  สินค้าทางอินเตอร์เน็ต  ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา สั่ง ลิปสติกสีชมพู  ไป ถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง สินค้าดีๆ ราคาถุก ส่งไว คุณภาพเยี่ยม ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่มีปัญหา

     คุณรู้หรือไม่? ว่าปัจจุบันนี้"ลิปสติกสีชมพู"นั้นโดยมีทั้ง ลิปสติกสีชมพู แล้วแบบนี้คุณจะทราบได้อย่างไรว่าในแต่ละรุ่นหรือประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร? หรือลิปสติกสีชมพู ยี่ห้อไหนดี? ราคาแพงไหม? ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาลิปสติกสีชมพูดีๆสักรุ่น วันนี้เราได้จัดอันดับ แนะนำ ลิปสติกสีชมพูคุณภาพดีมาให้คุณได้เลือกกันแล้วดังนี้

ลิปสติกสีชมพู นั้นมีเฉดหลากหลาย เข้ากับการแต่งหน้าหลายแบบ ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูเป็นสาวหวาน เรียบหรู หรือดูเป็นสาวมีความมั่นใจได้เช่นกัน ทำให้ ลิปสติกสีชมพูกลายเป็นสีที่ได้รับความนิยมจากสาว ๆ ที่รักการแต่งหน้ามาอย่างยาวนาน เป็นสีที่ทุกคนจะต้องมีติดประเป๋าไว้ หรือเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของหลายคนที่อยากซื้อลิปสติกแท่งแรกมาใช้ เพราะเป็นสีที่เหมาะกับทุกโอกาส ทั้งเป็นงานที่ทางการ วันเร่งรีบที่ต้องออกไปพบผู้คนแต่ไม่ต้องการแต่งหน้าจัด หรือต้องการแต่งหน้าสบาย ๆ แบบ Everyday Look ก็ได้เช่นเดียวกัน


สำหรับสาว ๆ คนไหนที่กำลังมองหาลิปสติกสีชมพูอยู่ แต่ยังลังเลใจว่าต้องซื้อเฉดใด หรือลิปสติกแบบไหน Finish Look แบบใดจะเหมาะสมกับประเภทการใช้งานของเรา วันนี้เราขอแนะนำ 10 อันดับ ลิปสติกสีชมพู ที่กำลังเป็นที่นิยม พร้อมวิธีการเลือกมาฝากกัน หากพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ

สาว ๆ หลายคน อาจจะกังวลเกี่ยวกับการเลือกลิปสติกสีชมพู โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีริมฝีปากคล้ำ เพราะกลัวว่าสีอ่อน ๆ แบบนี้จะทำให้เห็นริมฝีปากชัด หรือเมื่อทาไปแล้วสีจะเพี้ยน ไม่ตรงกับสีที่อยู่บนแท่งของลิปสติก ดังนั้น เราจึงขอแนะนำวิธีการเลือกลิปสติกสีชมพูเพื่อให้เหมาะสมและตรงตามความต้องการของผู้ใช้ก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ

การเลือกลิปสติกสีชมพูอาจจะเป็นปัญหาสำหรับสาว ๆ หลายคน เนื่องจากมีความกังวลในเรื่องสีของริมฝีปากคล้ำ เพราะหากเลือกสีที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เห็นความคล้ำชัดเจนขึ้น และทำให้สีชมพูที่เราเลือกมาไม่ตรงตามที่เราต้องการได้ ดังนั้น ขอแนะนำให้คนที่กังวลใน เรื่องนี้เลือกใช้สีชมพูเข้ม หรือโทนสีที่ออกไปทางม่วงเพื่อช่วยปกปิดสีของริมฝีปากของเรา หรือหากต้องการสีอ่อน ๆ แนะนำให้เลือกจาก Finish Look ให้มองหาลิปสติกปกปิดริมฝีปากก็เป็นตัวเลือกที่น่าใช้เช่นเดียวกันค่ะ

การเลือกลิปสติกจาก Finish Look จะช่วยให้เรากำหนดได้ว่า เราอยากให้ริมฝีปากเราดูเป็นแบบไหนหลังจากที่เราทาลิปสติกไปแล้ว ซึ่งเป็นตัวช่วยให้ได้ลิปสติกที่เหมาะกับการใช้งาน และบุคลิกของเราอีกด้วย มาดูกันเลยค่ะว่าลิปสติกที่เรากำลังตามหาอยู่นั้นเป็นแบบไหน

Finish Look แมตต์คือ เนื้อลิปสติกที่แห้งด้าน แต่เนื้อสีชัด ติดทน เมื่อทาแล้วจะดูเป็นธรรมชาติ ช่วยทำให้ปากดูบางลง ซึ่งเนื้อแมตต์เหมาะกับการแต่งหน้าแบบเข้ม เพราะให้สีชัดที่สุดค่ะ ข้อเสียคือ ลิปแมตต์เป็นเนื้อลิปที่ทายาก ไม่มีความมันวาว ถ้าคนที่มีริมฝีปากแห้งเป็นขุยหรือเห็นเป็นร่องเด่นชัด ดังนั้น สำหรับคนที่มีลักษณะริมฝีปากแห้งลอกอาจจะต้องมองหาเนื้อลิปสติกที่มีทั้งความแมตต์และเป็นเนี้อครีมในแท่งเดียวกัน ที่เรียกกันว่า เนื้อกึ่งแมตต์ หรือที่บางครั้งเรียกกันว่าเนื้อ Velvet นั่นเองค่ะ

ลิปสติกที่มีความแน่นของเนื้อสี ได้ที่สีชัดเจน มีความมันวาว ปากดูฉ่ำ ไม่แห้งและจะช่วยให้ริมฝีปากดูหนาขึ้น ด้วยความที่เนื้อลิปสติกเเบบครีมมีความมันวาว ทำให้ทาและเกลี่ยให้สม่ำเสมอได้ง่าย หากเทียบกับเนื้อเชียร์ที่มีความคล้ายกัน ลิปสติกเนื้อครีมจะมีความมันน้อยกว่าแต่ติดทนนานกว่า สาว ๆ ปากบางที่อยากให้ปากดูสวยเอิ่บอิ่ม การทาลิปสติกแบบครีมสามารถช่วยได้แน่นอนค่ะ

ลักษณะเนื้อลิปสติกแบบเชียร์และเนื้อซาตินั้น จะเป็นเนื้อบาง มีความมันวาวและให้ความชุ่มชื้นเช่นกัน เมื่อทาแล้วจะช่วยให้ปากดูมีความเย้ายวน ด้วยความที่เนี้อลิปสติกแบบนี้มีน้ำมันเป็นส่วนผสมจำนวนมาก จึงทำให้สีที่อยู่ในหลอดดูเข้มกว่าตอนทา และเราอาจจะต้องเติมปากบ่อย ๆ แต่เหมาะกับการทา Everyday Look เป็นอย่างมากค่ะ เพราะให้ความเป็นธรรมชาตินั่นเอง

ลิปสติกเนื้อชิมเมอร์มีทั้งที่เป็นสีเข้มหรือเป็นชิมเมอร์ที่อยู่ในลิปสติกสีอ่อน ช่วยให้ริมฝีปากดูเปล่งปลั่ง บางครั้งเนื้อลิปสติกแบบชิมเมอร์จะมี Finish Look ที่เป็นแบบกึ่งแมตต์ หรือ Matallic ที่มีความแห้งเล็กน้อย คล้ายลิปแมตต์ แต่เนื้อลิปยังคงมีประกายเเบบไข่มุก มีแสงระยิบระยับและดูเย้ายวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ใต้แสงไฟนีออน เนื้อลิปสติกแบบนี้เหมาะกับการทาเพื่อออกงานตอนกลางคืน หรือโอกาสพิเศษต่าง ๆ

Finish Look แบบกลอสหรือทินท์จะให้ความมันวาวและดูหนากว่าลิปสติกทั่วไป เป็นตัวเลือกของสาว ๆ ที่ต้องการเพิ่มความสดใส แวววาว ให้ริมฝีปากดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ความแน่นของสีบนลิปกลอสอาจจะไม่เท่ากับลิปสติกแบบอื่น ๆ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ง่ายต่อการทำความสะอาด สามารถใช้ได้ทั้งกับลิปสติกชนิดอื่นเพื่อเพิ่มความสว่างสดใส หรือทาเป็นเสมือนลิปสติกก็ได้เช่นเดียวกัน เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีปากบาง เรียวเล็ก นอกจากช่วยให้ปากสว่างแล้ว ยังช่วยให้มีมิติอีกด้วย

ปัจจุบันลิปสติกได้ถูกออกแบบให้มีลักษณะที่แตกต่างเหมาะกับการใช้งานหลัก ๆ จะมีอยู่ 2 แบบคือ แบบแท่ง และแบบลิควิด มาดูกันเลยค่ะว่า แบบไหนที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรากันบ้าง

ลิปสติกแบบแท่ง ถือเป็นลิปสติกรูปแบบคลาสสิกที่สุด เพราะเป็นลิปสติกแบบแรกที่ถูกผลิตขึ้น ข้อดีคือ ทาง่าย เกลี่ยง่าย ลิปสติกแบบเเท่งในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาให้มีช่วงปลายที่มีความเป็นเหลี่ยมและแหลม เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถวาดขอบปากได้ด้วยการใช้ปลายของลิปสติกได้เลย โดยไม่ต้องเพิ่งอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ และยังเข้ากับรูปปากของเราด้วย เหมาะแก่การพกพาและง่ายต่อการเติมปากระหว่างวันที่สุดเลยค่ะ

เนื้อลิปสติกแบบลิควิด เป็นลิปสติกเนื้อเหลว ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสีที่ติดทนนาน และเป็นลิปสติกที่สามารถปกปิดร่องริมฝีปากได้เป็นอย่างดี  มาพร้อมกับแปรงที่ช่วยให้เราสามารถออกแบบหรือวาดริมฝีปากของเราให้ดูหนา หรือบางได้ตามความชอบ แต่การใช้ลิปสติกแบบลิควิดนั้นอาจจะต้องอาศัยความชำนาญเพิ่มเข้ามาด้วย เพราะถ้าเลือกทาลิควิดลิปสติกที่เนื้อสีแน่นมาก ๆ อย่างเนื้อแมตต์ เนื้อลิปสติกจะแห้งเร็วและติดทน จำเป็นต้องเกลี่ยให้เสมอกันตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงสี ไม่เช่นนั้น จะเห็นความไม่สม่ำเสมอของลิปสติกได้ค่ะ

ลิปสติกหลายเนื้อ หลายสีที่เราเห็นกันนั้น จริง ๆ แล้วมีส่วนประกอบหลักเหมือนกัน คือ ไขแข็ง (Wax) น้ำมัน และสี ซึ่งส่วนประกอบทั้งสามทำหน้าที่แต่งต่างกันออกไป เช่น ไขแข็ง ช่วยในการขึ้นรูป ทำให้เป็นแท่ง น้ำมันจะช่วยในการหลอมละลาย และที่สำคัญคือสีที่จะเป็นตัวช่วยให้เกิดสีนั่นเอง ทั้งนี้ เพื่อลูกเล่นที่หลากหลายผู้ผลิตลิปสติกก็จะเติมสารอื่น ๆ เข้าไปด้วย เช่น น้ำหอม สารป้องกันการเหม็นหืน และสารที่ช่วยในการบำรุงริมฝีปาก


อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ส่วนผสมบางอย่างที่ทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น  เช่น Wax เราจึงควรจะตรวจสอบส่วนผสมที่เหมาะสมกับริมฝีปากของเรา เช่น สำหรับผู้ที่มีริมฝีปากแห้ง ควรมองหาลิปสติกที่มีส่วนช่วยให้ปากชุ่มชื้น โดยเฉพาะส่วนประกอบที่เป็นน้ำมันนั้น ควรเลือกลิปสติกที่มีน้ำมันธรรมชาติ เช่น Avocado Oil, Macadamia Seed Oil, Sunflower Oil หรือ Jojoba Seed Oil นอกจากนั้น ยังมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่สามารถเป็นตัวช่วยบำรุงริมฝีปากของเราได้ เช่น วิตามินอี ผสมน้ำหอมที่สกัดจากธรรมชาติ หรือสารที่ช่วยป้องกันแสงแดด

ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ปลอดภัยยังช่วยป้องกันในเรื่องของสารเคมีที่อาจตกค้างและเข้าสู่ร่างกายของเราได้ ดังนั้น เราควรเลือกลิปสติกที่มีคุณภาพครบทุกด้านทั้งเรื่องสีและส่วนประกอบอื่น ๆ ด้วยค่ะ

สำหรับใครลองอ่านวิธีการเลือกข้อมูลวิธีเลือกลิปสติกสีชมพูแล้ว แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกรุ่นใด ยี่ห้อใด มาทางนี้เลยค่ะ เรามี 10 อันดับ ลิปสติกสีชมพู รุ่นยอดนิยมที่ควรค่าแก่การครอบครองมาฝากกันค่ะ

เป็นลิปสติกจาก Maybelline New York ที่ออกแบบสีชมพู 7 เฉดสีให้เลือก เป็น Liquid ลิปสติกเนื้อแมตต์ ที่สามารถใช้ได้กับริมฝีปากทุกแบบ แม้จะมีปัญหาร่องปากลึก รับประกันเรื่องติดทนนานถึง 16 ชั่วโมง ทาง่ายด้วยหัวแปรงแบบไดมอนด์แหลม ไม่เลอะ สีที่อยากแนะนำคือ สี 175 RINGLEADER เป็นสีชมพูกะปิอ่อน ๆ ดูสุภาพ เหมาะสำหรับงานทางการ หรือต้องแต่งหน้าหวาน ๆ รับรองว่าสีนี้ทำให้ลุกคอมพลีทได้แน่นอนค่ะ ใครที่ชอบลิปสติกเนื้อแมตต์ หรือมองหาสีชมพูเฉดใหม่ ๆ ไม่ควรพลาดค่ะ

ลิปสติกบัตเตอร์ กลอส ใหม่จาก NYX ทั้งหมด 7 สี เนื้อลิปเป็นกลอส แต่เนื้อสีที่แน่น ติดทนนาน ไม่เหนียวเหนอะหนะ เป็นลิปสติกไม่เน้นการปกปิดริมฝีปาก สำหรับสีที่เราจะแนะนำนั้นชื่อ BLG36 - SORBET เป็นสีชมพูสว่าง เหมาะสำหรับวันสดใส ที่ต้องการ Finish Look ร่าเริงสดใส สามารถใช้เพียงบัตเตอร์ กลอสเพียงอย่างเดียว หรือวันไหนที่ต้องจัดเต็ม สามารถใช้ทาทับลิปสติกเนื้ออื่นเพื่อเพิ่มความแวววาวได้ด้วยเช่นค่ะ

เป็นลิปสติกเนื้อเนื้อผสมระหว่างครีมกับแมตต์ หรือที่เรียกว่าเนื้อ Velvet จาก Etude คอลเลคชั่นนี้ออกมาเพื่อเอาใจสาว ๆ ที่ชอบสีโทนโรเซ่ไวน์ หรือไวน์สีชมพูละมุน ๆ เนื้อลิปสติกเบาสบาย สีที่อยากแนะนำคือสี PK003 Mood Up เป็นสีชมพูกลีบกุหลาบ สามารถปกปิดได้ดี ช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม หากใครที่อยากแต่งหน้าเทรนด์สาวเกาหลีต้องรีบกดซื้อเลย เหมาะกับ Everyday Look มาก ๆ ค่ะ

ลิปสติก Shimmer ที่ทาแล้วจะได้ Finish Look เป็น Mettalic ช่วยให้ริมฝีปากเปล่งประกาย และยังสามารถติดทนนานได้ตลอดทั้งวัน มีวิตามินอี และน้ำมันสกัดจากอโวคาโด ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้น รุ่นนี้มีทั้งหมด 6 สี สีที่อยากแนะนำ คือสี Patina Shimmer - Shimmering Dusty Rose เป็นสีชมพูเข้ม ดูเป็นผู้ใหญ่ แต่ยังคงความสดใส เหมาะกับการออกงานหรือเป็น Day to Night ก็ได้ค่ะ

ลิปสติกรุ่นนี้เมื่อทาจะได้ Finish Look เป็นเนื้อซาติน มีความพิเศษเรื่องเนื้อเบา ถึงจะมีเนื้อแห้งแบบแมตต์ แต่มีส่วยช่วยบำรุงจาก Japanese Camellia Oil ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ริมฝีปากแห้ง สีติดทนนาน ไม่หลุดลอก สีที่แนะนำคือสี PK347 เป็นสีชมพูสด ให้ความรู้สึกใส เหมาะกับการแต่งหน้าในวันสบาย ๆ เป็น Everyday Look ช่วยทำให้ดูสุขภาพดีค่ะ

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาลิปสติกสีชมพู หรือผู้ที่ชื่นชอบสีชมพู NARS Semi Matte Lipstick เนื้อลิปสติกเป็นกึ่งแมตต์ที่ช่วยให้ทาง่าย ด้วยส่วนผสมจากสารสกัดน้ำมันมะรูมและเสาวรส ช่วยให้ดูมีชีวิตชีวา และใช้ได้กับทุกสภาพริมฝีปาก เป็นเนื้อแมตต์ที่พิเศษกว่าเนื้อแมตต์ทั่วไปเพราะไม่แห้ง ติดทนนาน และยังปิดสนิทด้วยค่ะ สี Schiap คืออีกหนึ่งสีที่ไม่ควรพลาดค่ะ เพราะสีนี้เป็นสี Iconic ของแบรนด์นี้เลยก็ว่าได้ เป็นสีชมพูสว่างสดใส ให้ความโด่ดเด่นแก่ริมฝีปาก เหมาะกับการทาในช่วงกลางวัน รับรองว่าถ้าทาแล้วจะต้องสวย ช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้แลดูเป็นคนมีความมั่นใจ

สำหรับใครที่เน้นการดูแลปกป้องริมฝีปาก แต่อยากให้มีสีชมพูอ่อน ๆ แนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ เนื้อลิปสติกมีความเบาบางมาก ทาแล้วให้ความรู้สึกสบาย เป็นลิปมันที่มีสีติดทน สามารถใช้ทาเพื่อเพิ่มความสว่างให้กับลิปสติกเนื้ออื่น ๆ เพื่อให้ได้ Finish Look แบบ Gloss ค่ะ แนะนำสี Kiss Me Shine เป็นสีชมพูอ่อน สำหรับวันเบา ๆ ที่อยากแต่งหน้าเบา หรือวันที่ไม่แต่งหน้า ลิปมันรุ่นนี้เหมาะกับการนี้มาก ช่วยให้ริมฝีปากของเราดูสุขภาพดี และช่วยปกป้องริมฝีปากไม่ให้แห้งแตกด้วยค่ะ

มาถึงตาของลิปสติกเนื้อครีมจาก LAURA MERCIER เนื้อครีมมีความบางเบา แต่สีเข้มข้น ทาติดง่าย ช่วยให้เห็นเรียวปากชัด สำหรับใครที่มีปากแห้งแตก ลิปสติกตัวนี้ช่วยได้เนื่องจากมีความชุ่มชื้นสูงอยู่ได้นาน 6 ชั่วโมงเลยที่เดียวค่ะ สีที่แนะนำคือสีชื่อ A La Rose - Light Dirty Pink เป็นสีชมพูหม่น ๆ คล้ายสีกลีบกุหลาบ ที่สวยมาก เข้ากับทุกสีผิว ทำให้ดูเป็นสาวหวาน เหมาะสำหรับเดทแรก หรือจะเป็นลุกเจ้าสาวก็สวยสุด ๆ

ลิปสติกเนื้อผสมจาก Tom Ford รุ่นนี้เหมาะกับใครที่อยากจะได้สีชมพู เนื้อกึ่งแมตต์ สีลิปชัดเจน เนื้อติดทนนาน ไม่หนา หรือบางเกินไป ที่สำคัญคือทำให้ริมฝีปากมีความชุ่มชื้นด้วยค่ะ เมื่อทาแล้วจะได้ Finish Look แบบแมตต์ และสีจะมีความเข้มขึ้นเล็กน้อย สีที่แนะนำคือสี Indian Rose เป็นสีชมพูกุหลาบโทนกลาง ๆ และอมเหลืองนิด ๆ สามารถเพิ่มความสว่างให้ริมฝีปาก เหมาะกับทุกสภาพผิว และทุกสถานการณ์

ลิปสติกเนื้อครีม ที่แบรนด์เรียกว่าเนื้อ Shine ที่ออกมาเมื่อช่วงต้นปีนี้ เนื้อลิปสติกบางเบา และเปล่งประกาย แบบมีมิติ สวยเย้ายวน มีส่วนผสมของ กรดไฮยาลูโรนิค และวิตามินอี ช่วยคงความชุ่มชื้นอย่างยาวนาน สีติดทนนาน และปกปิดได้มิด สีที่แนะนำคือสี Trailblazer เป็นสีชมพูระเรื่อ เหมาะกับการทาแบบ Everyday Look แนวสาว Office ตามสไตล์ของ Bobbi Brown หากใครที่มองหาสีใหม่ ๆ บอกเลยว่าตัวนี้ไม่ทำให้ตกเทรนด์แน่นอนค่ะ

ขอแนะนำเพิ่มเติมสำหรับคนที่มองหาสีอื่น ๆ นอกจากที่เราแนะนำไป แต่ยังเป็นลิปสติกรุ่นเดียวกันก็สามารถค้นหาผ่านลิงค์ที่เราแปะไว้ได้เลยค่ะ แต่ละรุ่นมีสีชมพูเฉดอื่น หรือสีที่นอกเหนือจากสีชมพูด้วยนะคะ

อย่างที่เห็นกันค่ะว่าปัจจุบันลิปสติกนั้นมีลูกเล่นเยอะมาก แต่ละรุ่นถูกคิดค้นออกมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย และใช้ได้กับทุกผิว ทุกวัย หวังว่า 10 อันดับ ลิปสติกสีชมพูที่เราได้รวบรวมมาไว้ครั้งนี้ หวังว่าจะถูกใจหลาย ๆ คน สามารถเลือกดูได้ตามความต้องการใช้งาน หรือสไตล์การแต่งหน้าของแต่ละคนได้เลยนะคะ หากใครที่ยังลังเลใจอยู่ว่าจะใช้ลิปสติกสีชมพูดีไหม หลังจากอ่านบทความนี้แล้วคงจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้า