เวลาไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ทุกคนคงไม่อยากพลาดที่จะเก็บภาพโมเม้นต์และบรรยากาศในตอนนั้นไว้ เพื่อนำกลับมาย้อนดูและนึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขกันใช่ไหมล่ะคะ? เราเชื่อว่าหลายคนจึงต้องมีกล้องตัวโปรดที่พาไปลุยด้วยกันทุกที่ทุกกิจกรรมอย่างแน่นอน แต่เนื่องจากกล้องดิจิทัลนั้นนับเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความละเอียดมาก บางตัวก็มีราคาค่อนข้างสูงจึงต้องมีการดูแลรักษาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการระวังไม่ให้โดนน้ำ เพราะอาจทำให้น้ำเข้าไปภายในตัวกล้องจนเกิดความเสียหายได้
ดังนั้น เพื่อไม่ให้พลาดชอตสำคัญไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไร ให้ เคสกล้องกันน้ำ เป็นตัวช่วยคอยปกป้องกล้องคู่ใจของเราดีกว่าค่ะ เพื่อให้เราสามารถไปลุยน้ำได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องคอยกังวลเรื่องน้ำเข้าหรือฝนที่อาจจะตกลงมาได้ทุกเมื่อ โดยเราจะมาบอกวิธีการเลือกเคสกล้องกันน้ำให้ถูกใจคุณ พร้อมจัด 10 อันดับ เคสกล้องกันน้ำ ที่ดีและมีคุณภาพสำหรับทุกคนที่กำลังมองหาเคสกล้องกันน้ำอยู่ ลองมาอ่านบทความนี้กันดูนะคะ
เคสกล้องกันน้ำนั้นมีอยู่หลายประเภทที่เราควรตรวจสอบ เพราะมีหลายปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการใช้งาน เช่น รูปทรง ขนาด หรือตัวล็อกฝาปิด เป็นต้น แต่ก่อนที่เราไปดูการจัดอันดับเคสกล้องกันน้ำนั้น เรามาดูวิธีการเลือกเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจกันก่อนดีกว่าค่ะ
โดยปกติแล้ว เคสกล้องกันน้ำจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เคสแบบอ่อน (Soft Case) และเคสแบบแข็ง (Hard Case) ซึ่งทั้งสองแบบก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป จึงเป็นการดีหากเราจะมาพิจารณาจาก 2 ทางเลือกนี้กันก่อนค่ะ
เคสประเภทนี้จะมีลักษณะเหมือนถุงพลาสติกใสและส่วนใหญ่ตรงที่ปิดจะเป็นแบบซิปล็อก บางครั้งจึงเรียกว่า "ซองกันน้ำ" แทนได้ค่ะ เนื่องจากเป็นเคสแบบอ่อนจึงไม่จำกัดว่าจะสามารถใส่ได้เฉพาะกล้องรุ่นใดรุ่นหนึ่ง หรือกล้องขนาดใดขนาดหนึ่งเท่านั้น ทำให้ถึงแม้เราจะซื้อเคสมาอันเดียวแต่ก็สามารถใช้งานได้กับกล้องหลายรุ่น
อย่างไรก็ตาม เคสแบบอ่อนโดยส่วนใหญ่นั้นจะสามารถกันน้ำได้ลึกสุดประมาณ 20 เมตร ดังนั้น ถ้าใช้งานเวลาไปว่ายน้ำที่สระหรือระดับน้ำทะเลที่ไม่ลึกมากก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะเข้าเลยค่ะ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ดำน้ำในระดับที่ลึกมาก ๆ นะคะ เพราะน้ำยิ่งลึกแรงดันน้ำก็จะยิ่งสูงและเสี่ยงที่น้ำจะเข้าเคสมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจทำให้กล้องเสียหายได้ค่ะ
เนื่องจาก เคสแบบแข็ง จะมีรูปร่างที่เฉพาะจึงสามารถใช้งานได้แบบเฉพาะรุ่นเท่านั้น แต่เคสประเภทนี้จะมีจุดเด่นตรงที่ มีประสิทธิภาพในการกันน้ำสูงมาก ซึ่งสามารถนำไปใช้ดำน้ำที่ลึกได้โดยไม่ต้องกังวลว่าน้ำรั่วซึมเข้าเคสเลย นอกจากนี้ เคสกันน้ำแบบแข็งยังมักมาพร้อมกับตัวยึดที่ทำให้กล้องของเรานิ่งที่สุด เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวก จึงเหมาะกับช่างภาพใต้น้ำมืออาชีพหรือคนที่ต้องการรูปที่มีคุณภาพสูงค่ะ
สำหรับเคสกล้องกันน้ำนั้น ความสะดวกในการใช้งานขณะที่สวมใส่เคสอยู่ก็สำคัญมากเช่นกัน ในกรณีที่เป็นเคสแบบอ่อน เราสามารถกดเลือกฟังก์ชันต่าง ๆ จากด้านนอกเคสได้ตามปกติ เว้นแต่บางครั้งที่เราต้องตั้งค่าฟังก์ชันที่ซับซ้อน ก็อาจจะจำเป็นต้องนำออกมากดตั้งค่าข้างนอกเคสก่อนจึงค่อยนำใส่กลับไปเหมือนเดิม ในทางกลับกัน เคสแบบแข็งโดยส่วนใหญ่เวลาใส่เคสอยู่ เราก็สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยไม่ต้องนำออกมากดข้างนอกเคสให้เสียเวลาแต่อย่างใด
หากเป็นการถ่ายวีดีโอเราสามารถกดเปิดกล้องทิ้งไว้ได้ แต่ถ้าต้องการถ่ายภาพ การใช้เคสแบบอ่อนบางรุ่นอาจจะไม่ตอบโจทย์ความสะดวกในการใช้งานมากพอ ขอแนะนำว่า ให้เลือกเคสที่สามารถใช้งานได้ง่ายแม้จะใส่เคสเพื่อกันน้ำอยู่ก็ตาม โดยที่คุณภาพของรูปที่ได้นั้นก็ต้องไม่ลดลงด้วยค่ะ
ผลิตภัณฑ์เคสกันน้ำมีสัญลักษณ์มาตรฐานระดับสากลที่สามารถบอกได้ว่า ผลิตภัณฑ์นั้นสามารถกันน้ำได้ดีแค่ไหน ซึ่งกำหนดโดย "IEC (International Electrotechique Commission)" หรือ "คณะกรรมาธิการระหว่างประเทศว่าด้วยมาตฐานสาขาอิเล็กทรอนิกส์" ซึ่งสัญลักษณ์นั้น คือ "IPXX" โดย IP ย่อมาจาก Ingress Protection หมายถึง ค่ามาตรฐานที่บอกระดับการป้องกันฝุ่นและน้ำ X ตัวหน้าระบุค่าระดับการป้องกันของแข็งที่อาจจะสามารถผ่านเข้าไปในอุปกรณ์ได้ เช่น ฝุ่น เศษหิน เป็นต้น ระดับจะเริ่มตั้งแต่ 0 - 6 ส่วน X ตัวหลังบอกค่าระดับการป้องกันน้ำ เริ่มตั้งแต่ 0 - 8 นอกจากนี้ เคสกันน้ำส่วนใหญ่ที่ตัวเลขด้านหน้าแทนด้วยตัวอักษร X จะหมายถึงเคสดังกล่าวมีคุณสมบัติกันน้ำเท่านั้น แต่ไม่สามารถกันฝุ่นได้ค่ะ
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่สามารถป้องกันฝุ่นและน้ำได้ XX จะถูกแทนด้วยตัวเลขทั้งคู่ สำหรับประเภทเคสที่ประสิทธิภาพในการกันน้ำต่ำที่สุดคือ "IPX0" ซึ่งไม่สามารถกันน้ำได้นั่นเอง ในทางกลับกัน "IPX8" คือ เคสรุ่นที่มีประสิทธิภาพในการกันน้ำสูงที่สุด ถึงแม้จะอยู่ในน้ำเป็นเวลานานก็สามารถป้องกันน้ำเข้าได้หายห่วงค่ะ
ในปัจจุบัน เคสกันน้ำถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงมากยิ่งขึ้น แม้แต่เคสแบบอ่อนหลาย ๆ แบรนด์ก็สามารถกันน้ำถึง IPX8 เลยค่ะ ถ้าเป็นไปได้เราขอแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีระบุว่า IPX8 เป็นมาตรฐานค่ะ ส่วน ระดับรองลงมาอย่าง IPX7 ที่สามารถป้องกันน้ำเข้าอุปกรณ์ได้ในระดับน้ำลึก 1 เมตร ก็ถือว่าไม่แย่เช่นกัน เพราะคุณสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องหยดน้ำหรือความชื้นค่ะ
หลังจากได้รู้จักกับประเภทและวิธีการเลือกเคสกล้องกันน้ำกันแล้ว ต่อจากนี้ เราจะมาแนะนำ 10 อันดับ เคสกล้องกันน้ำยอดนิยม ที่ทางเราได้จัดอันดับจากการหาข้อมูลและดูรีวิวจากหลาย ๆ แบรนด์มาแล้วว่าดีจริง ถ้าพร้อมแล้วไปติดตามกันเลยค่ะ
สายมินิมอลต้องไม่พลาดกับซองใส่กล้องกันน้ำรุ่นนี้ ที่ออกแบบมาสำหรับกล้อง Compact ตัวเล็กที่ตัวเลนส์สามารถยืดได้ไม่เกิน 3 ซม. พร้อมกับมีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 5 ซม. เหมาะจะพกพาไปทุกที่ไม่ว่าจะไปคาเฟ่ ทะเล หรือเทศกาลไหน ๆ เพียงแค่ใส่ซองกันน้ำรุ่นนี้ ก็สามารถไปเดินเล่นและสนุกกับบรรยากาศรอบ ๆ ได้อย่างไม่ต้องกังวล หรือใครที่ชอบไป Snorkeling จะใส่ไปดำน้ำดูประการังเก็บภาพสวย ๆ ใต้น้ำก็ไม่มีปัญหาค่ะ
เคสกันน้ำสำหรับ SJCAM SJ5000 Series มาตรฐานกันน้ำระดับ IPX8 กันน้ำได้ลึก 30 เมตร มาพร้อมกับเลนส์ที่แสงสามารถผ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เราได้ภาพที่ชัดและคมสวย ด้านในมีขอบยางเพื่อช่วยปกป้องกล้องให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับดีไซน์ Anti-Hydraulic ทำให้เราไม่ต้องกังวลกับแรงดันที่อาจส่งผลกระทบกับปุ่มเวลาอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากเคสกันน้ำรุ่นนี้มีคุณสมบัติ กันน้ำ กันลม กันฝุ่น อีกทั้งยังรับแรงกระแทกได้ เราจึงสามารถออกไปดำน้ำหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ ได้อย่างไรกังวลเลยค่ะ
เคสกล้องกันน้ำแบรนด์นี้ ถูกออกแบบมาเพื่อกล้อง Olympus รุ่น TG-5 และ TG-6 โดยเฉพาะเลยค่ะ แม้ราคาอาจจะแรงสักหน่อย แต่ทางแบรนด์ก็ได้ใช้วัสดุที่ทนทานและมีคุณภาพอย่างอะลูมิเนียมมาช่วยป้องกันกล้องคู่ใจของเราให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น เราจึงไม่ต้องกังวลมากนักในกรณีที่อาจมีเศษหินกระเด็นมาโดนระหว่างที่ดำน้ำ ช่วยให้เราสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศใต้น้ำได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ เคสรุ่นนี้ยังใช้ดำน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร ซึ่งถือเป็นรุ่นที่กันน้ำได้ลึกและมีประสิทธิภาพมากในระดับหนึ่งเลยล่ะค่ะ
ใครที่กำลังแพลนทริปไปทะเลและกำลังมองหาซองใส่กล้องกันน้ำสำหรับกล้อง DSLR อยู่ รุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวค่ะ เนื่องจากเป็นเคสชนิดอ่อนราคาจึงไม่แพงมากเมื่อเทียบกับเคสชนิดแข็ง จุดเด่นอยู่ที่สามารถใส่ได้กับกล้องหลายแบรนด์หลายรุ่น มีน้ำหนักเบา เก็บง่าย และพกพาสะดวก เคสรุ่นนี้เหมาะสำหรับกล้อง DSLR ซึ่งสามารถใช้กับเลนส์ 10 ซม. ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเลนส์ไม่เกิน 9 ซม. มาพร้อมกับวัสดุหน้าเลนส์ที่ทำจากอะคริลิก นอกจากนี้ทางแบรนด์ได้ทำการทดสอบแล้วว่ากันน้ำกันฝุ่นปลอดภัยแน่นอนค่ะ
เคสกล้องรุ่นนี้มาพร้อมกับเซ็นเซอร์จับความชื้นภายใน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่หน้าจอแบบง่าย ๆ แถมขณะที่ใส่เคสอยู่เรายังสามารถกดฟังก์ชันต่าง ๆ ของกล้องได้ปกติโดยไม่ต้องถอดเคส นอกจากนี้ ยังมี Anti-Glare Hood ที่สามารถถอดออกได้มาช่วยป้องกันแสงสะท้อนเข้าตา และระบบ Fantasea Hybrid Vacuum Safety System ที่ช่วยในการตรวจสอบสุญญากาศก่อนลงไปดำน้ำได้ว่า เคสมีการรั่วไหลหรือไม่ ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจว่ากล้องตัวโปรดของเราจะไม่เสี่ยงกับการรั่วซึมของน้ำจนทำให้กล้องเสียหายค่ะ
เรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์แบรนด์นี้ไม่ต้องพูดถึงอัดแน่นไปด้วยคุณภาพ หลายคนอาจไม่รู้ว่าทางแบรนด์มีผลิตภัณฑ์เคสกล้องกันน้ำออกมาด้วย ซึ่งไม่เพียงแต่ใช้วัสดุที่มีคุณภาพแต่ดีไซน์ของเคสก็สวยเก๋ ดูมีระดับ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้กับกล้องรุ่นอื่น ๆ ของ SONY ได้หลายรุ่น เหมาะสำหรับคนเล่นกล้องที่เป็นแฟนคลับ SONY สุด ๆ ที่สำคัญ มาพร้อมกับแป้นหมุนที่ช่วยให้เราสามารถปรับการตั้งค่าต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ตัวล็อกก็หนาแน่น อีกทั้งยังมีรูด้านล่างสามารถติดอุปกรณ์เสริมเพิ่มได้และสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 40 เมตร เรียกได้ว่าเอาไปดำน้ำได้สบาย ๆ เลยค่ะ
เคสรุ่นนี้ออกมาพร้อมกับกล้อง Olympus รุ่น TG-6 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นคู่หูที่โด่งดังในหมู่คนรักการดำน้ำเลยค่ะ ทั้งตัวกล้องเองที่มาพร้อมฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ช่วยให้สามารถปรับแต่งภาพใต้น้ำได้ ส่วนเรื่องคุณภาพของภาพและวีดีโอนั้นไม่ต้องพูดถึง สีสันชัดสวยงามมาก ส่วนเคสกล้องกันน้ำรุ่นนี้ก็สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 45 เมตร แถมยังกันน้ำกันฝุ่นในระดับมาตรฐาน IP68 พอใช้คู่กันแล้วทำให้เราสามารถสนุกไร้กังวลกับการเก็บภาพใต้น้ำได้อย่างเต็มที่ รู้แบบนี้แล้วสาวก Olympus ที่รักการดำน้ำพลาดไม่ได้แล้วค่ะ
หลาย ๆ คนคงรู้จัก GoPro กันดีอยู่แล้ว เพราะสาย YouTuber หรือคนที่ชอบทำ Vlog คงจะต้องมี GoPro กันสักตัว แต่เพื่อที่เราจะสามารถถ่ายภาพได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุดแม้จะโดนน้ำ เราจึงควรใส่เคสกันน้ำเพื่อปกป้องกล้อง เคสรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อ GoPro HERO5 ดำน้ำได้ลึก 60 เมตร มาตรฐานกันน้ำ IPX8 ช่วยปกป้องกล้องให้ปลอดภัยจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากน้ำ อีกทั้งยังป้องกันกล้องจากเศษหิน กรวด หรือทรายที่กระเด็นมาโดนด้วยค่ะ
เคสแบบอ่อนรุ่นนี้ เหมาะสำหรับกล้อง Mirrorless ที่มีขนาดใหญ่ ใช้กับเลนส์ 7 ซม. ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 7 ซม. ส่วนที่เลนส์ยื่นออกไปผลิตจากวัสดุนิ่ม ไม่แข็ง ช่วยปกป้องเลนส์ได้มากกว่า มีช่องสำหรับกดชัตเตอร์ทำให้ใช้งานกล้องได้ง่ายแม้จะอยู่ใต้น้ำ อีกทั้งยังมีระบบตัวล็อกสุญญากาศที่ช่วยกันน้ำและความชื้นไม่ให้เข้าเคส สามารถนำไปใช้กับกล้องได้หลายรุ่นจากยี่ห้อดัง เช่น Fuji, Sony, Panasonic เป็นต้น คุณจึงไม่ต้องเป็นห่วงว่าเมื่อซื้อมาใช้แล้วจะเข้ากับกล้องที่มีอยู่ไม่ได้ค่ะ
ใครที่เป็นสายแอดเวนเจอร์คงไม่มีใครไม่รู้จัก GoPro HERO8 ที่มีจุดเด่นที่ระบบกันสั่นที่นิ่งแม้ไม่ใช้อุปกรณ์เสริม ซึ่งเหมาะกับคนที่ชอบทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่ต้องเคลื่อนไหวเยอะ เคสกันน้ำรุ่นนี้ทางแบรนด์ได้ออกมาเพื่อรองรับ GoPro HERO8 โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 60 เมตร เลยทีเดียวค่ะ วัสดุแข็งแรงทนทานกันกระแทกจากเศษดิน เศษหิน ต่าง ๆ ระหว่างทำกิจกรรม ตรงเลนส์เป็นวัสดุจากแก้วทำให้ภาพชัดคมสวย อีกทั้งยังสามารถใช้จอสัมผัสของกล้องได้ง่ายและมีฝาหลังสเกลเลตัน (Skeleton Backdoor) ที่ทำให้สามารถบันทึกเสียงได้ดีขึ้นด้วยนะคะ
สุดท้ายนี้ ใครที่กำลังแพลนทริปไปเที่ยวทะเล ภูเขา หรือทำกิจกรรมอะไรก็ตามที่กล้องมีโอกาสที่จะโดนน้ำ ก็อย่าลืมหาเคสกล้องกันน้ำดี ๆ สักอันมาช่วยปกป้องกล้องสุดที่รักของเราจากสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้เราเที่ยวสนุกขึ้นไม่ต้องมากังวลเรื่องน้ำหรือฝุ่นเข้ากล้อง และหวังว่า วิธีการเลือกและการจัด 10 อันดับ เคสกล้องกันน้ำ ที่เรานำมาฝาก จะช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกเคสกล้องกันน้ำที่เหมาะกับกล้องคู่ใจได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม ก่อนนำเคสไปใช้ควรตรวจสอบเคสก่อนว่า มีการรั่วซึมของน้ำหรือไม่เพื่อความปลอดภัย และหลังจากที่เราใช้เคสกล้องกันน้ำแล้วทุกครั้ง อย่าลืมนำไปทำความสะอาดและเช็ดให้แห้ง เพื่อที่เคสจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ นะคะ