น่าซื้อ 7 อันดับ น้ำตบสำหรับนักเรียนมัธยม ที รุ่นไหนดี รีวิวเพียบ อัพเดทล่าสุดปี 2567

คูปอง ส่วนลด ในร้านค้าออนไลน์แนะนำของเรา จัดเต็ม โปรลดเยอะ สำหรับ Flash Sale สามารถใช้งานได้ รับข้อเสนอมากมาย กับดีลเด็ดประจำวัน คูปอง ส่วนลด จัดเต็ม สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และไว้ใจได้กับโมบาย แอปพลิเคชั่น
ราคาเด็ดถุกใจลุกค้าแน่นอน ราคาคุ้มค่า เราแนะนำเลยเจ้านี้ น้ำตบสำหรับนักเรียนมัธยม  สินค้าทางอินเตอร์เน็ต  ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา สั่ง น้ำตบสำหรับนักเรียนมัธยม  ไป ราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาจะลดลงอีกลองเข้าไปดูที่ร้านได้ ซื้อเลย สินค้าไม่เสียหาย มีคุณภาพ ส่งไว คุณภาพเกินราคา ได้ลองแล้วนับว่าดีเลยทีเดียว ไม่มีความเสียหายไดๆจากการขนส่ง

     
คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากน้ำตบสำหรับนักเรียนมัธยม มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง น้ำตบสำหรับนักเรียนมัธยม และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา น้ำตบสำหรับนักเรียนมัธยม วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ น้ำตบสำหรับนักเรียนมัธยมยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!

ช่วงวัยมัธยมฯ เป็นช่วงที่เหล่าบรรดาน้อง ๆ จะเริ่มดูแลตัวเองด้วยการหาสกินแคร์ต่าง ๆ มาบำรุงผิวกันบ้างแล้ว เพราะเริ่มรักสวยรักงามมากขึ้น ประกอบกับสภาพผิวที่เข้าสู่วัยเริ่มเปลี่ยนแปลง จากวัยเด็กเข้าสู่วัยสาว บางคนอาจเจอปัญหาสิวบุก ในขณะที่หลายคนเจออาการผิวแห้งเล่นงาน อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่มีประสบการณ์ในการเลือกซื้อน้อย บวกกับงบช้อปปิ้งที่มีจำกัด ทำให้บางคนพลาดไปซื้อสกินแคร์ที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองมาใช้ วันนี้ทีมงานของเราเลยถือโอกาสมาแนะนำหนึ่งในตัวช่วยที่จะบำรุงผิวให้กับน้อง ๆ ซึ่งก็คือ ‘น้ำตบ’ นั่นเอง

และเราก็ไม่ได้มาเล่น ๆ นะคะ แต่เราจัดเต็มให้ทั้ง “วิธีการเลือกซื้อ” และ “10 อันดับ น้ำตบที่ยอดฮิตขายดี” ที่เหมาะกับวัยของน้อง ๆ มาให้อ่านกันด้วย เกริ่นมาแค่นี้ก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ งั้นเรารีบไปดูกันเลยดีกว่า!
ก่อนอื่นเลย เรามาเริ่มกันที่วิธีการเลือกซื้อน้ำตบที่เหมาะสมกับน้อง ๆ กันดีกว่าค่ะ มาดูกันว่ามีหลักการอะไรบ้างที่เราต้องคำนึง เพื่อให้ได้ตัวที่ตอบโจทย์กับสภาพผิวของเรามากที่สุด
บอกเลยว่าสภาพผิวของวัยรุ่นเป็นอะไรที่น่าอิจฉามาก ๆ เพราะสุขภาพผิวยังแข็งแรงอยู่ บำรุงแค่นิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอแล้ว ต่างจากวัยผู้ใหญ่ที่เจอปัญหาผิวรุมเร้ามากมาย ฉะนั้น อะไรบ้างล่ะที่น้อง ๆ จะต้องคำนึงถึง?
แน่นอนว่า ด้วยวัยเพียงเท่านี้คงยังไม่สามารถหารายได้ด้วยตัวเองกัน เงินช้อปปิ้งส่วนใหญ่เลยมาจากเงินค่าขนมที่เก็บสะสมกันมา เพราะฉะนั้น เวลาเลือกซื้อน้ำตบหรือแม้แต่สกินแคร์ประเภทอื่น ๆ แนะนำว่าไม่ควรเกินงบประมาณ 500 บาทค่ะ และอย่าลืมเทียบราคากับปริมาณด้วย เพราะต่อให้ราคาถูก แต่มีปริมาณน้อย สุดท้ายก็ใช้ได้ไม่นาน ไม่คุ้มค่าอยู่ดี
หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า “ของถูกจะดีหรอ” ก่อนอื่นต้องบอกว่า ด้วยอายุเท่านี้ สภาพผิวของน้อง ๆ ยังคงแข็งแรงอยู่ ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำตบที่มีส่วนผสมเกรดพรีเมียม หรือมีสารบำรุงมากมายที่จะทำให้ราคาสูงโดยไม่จำเป็น แค่เกรดทั่วไปก็เพียงพอแล้วค่ะ
หนึ่งในความต้องการของวัยรุ่นไทย ส่วนใหญ่ก็อยากมีผิวขาวกันใช่ไหมล่ะคะ แต่สภาพผิวของเราตอนนี้ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอด เพราะร่างกายยังเติบโตไม่เต็มที่ และด้วยกิจกรรมของน้อง ๆ ในวัยนี้คงยังต้องพบเจอกับแดดอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ ด้วยความที่ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย รวมไปถึงการฟื้นฟูผิวยังดีอยู่ เวลาเกิดจุดด่างดำ รอยสิว หรือหน้าหมองคล้ำ ร่างกายจะฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้เร็วกว่าผู้ใหญ่อีกด้วย จึงไม่จำเป็นที่จะต้องบำรุงด้วยน้ำตบที่มีคุณสมบัติเป็น Whitening
นอกจากนี้ เมื่อฮอร์โมนเกิดแปรปรวนขึ้นมาตามช่วงวัย การใช้น้ำตบ Whitening อาจจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดสิวขึ้นได้ค่ะ ทางที่ดี แนะนำให้หลีกเลี่ยงจะดีกว่า
สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่มีผิวค่อนข้างบอบบางอยู่แล้ว เช่น แพ้ง่าย เป็นสิวง่าย แนะนำให้หลีกเลี่ยงสูตรที่มีแอลกอฮอล์นะคะ เพราะจะยิ่งทำให้หน้าระคายเคืองและเกิดอาการแพ้มากขึ้นได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ต้องอธิบายก่อนว่าแอลกอฮอล์ (ชนิด Ethanol) ที่มักใส่มาในสกินแคร์นั้น มีคุณสมบัติทำให้เนื้อซึมไว หลังทาแล้วเบาสบายผิว แต่ข้อเสียคือ อาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่คนผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่ายต้องการค่ะ ในทางกลับกัน สิ่งที่สภาพผิวทั้ง 2 แบบต้องการ คือ “ความชุ่มชื้น” ขอแนะนำให้ซื้อสูตรที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์และปราศจากแอลกอฮอล์จะเหมาะสมที่สุดค่ะ
และสำหรับใครที่ผิวแพ้ง่าย นอกจากจะเลือกซื้อสูตรที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์แล้ว อย่าลืมเลือกซื้อสูตรที่ไม่มีน้ำหอม สีสังเคราะห์ และสารพาราเบนด้วยนะคะ เพราะสารเหล่านี้อาจกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการผื่นแพ้ได้
ส่วนใหญ่แล้วเจ้าแอลกอฮอล์ที่ทุกคนหมายถึงกันจะเป็นชนิด Ethanol ค่ะ แต่นั่นไม่ใช่ชนิดเดียวที่จัดว่าเป็นสารประเภทนี้ ยังมีอีกหลายตัวด้วยกัน เช่น Stearyl Alcohol, Lauryl Alcohol, Cetearyl Alcohol และ Behenyl Alcohol ดังนั้น แม้ว่าน้ำตบสูตรนั้น ๆ จะระบุว่าเป็น Alcohol-Free เราก็ควรเช็กส่วนผสมอีกรอบด้วยว่า ปราศจากแอลกอฮอล์ทุกชนิดจริงหรือไม่ โดยเฉพาะน้อง ๆ ที่มีสภาพผิวแห้งหรือแพ้ง่าย
อย่างไรก็ตาม แอลกอฮอล์ไม่ได้เป็นอันตรายกับผิวขนาดนั้นหรอกนะคะ น้อง ๆ ที่มีสภาพผิวธรรมดา, ผิวผสม หรือผิวมัน สามารถใช้ได้ โดยเฉพาะคนที่มีผิวมัน จะยิ่งทำให้รู้สึกสบายผิว ลดความเหนียวเหนอะหนะบนใบหน้าไปได้
แม้ว่าการล้างหน้าให้สะอาดอย่างอ่อนโยน และบำรุงด้วยน้ำตบสูตรทั่วไปแล้ว แต่สำหรับคนที่เป็นสิวง่ายอาจจะรู้สึกว่ายังดูแลไม่มากพอ จึงขอแนะนำให้น้อง ๆ ซื้อสูตรที่มีส่วนผสมของยารักษาสิวเลยค่ะ เช่น Salicylic Acid (หรือ BHA) หรือ Isopropylmethylphenol เพราะจะช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย P.Acne ต้นเหตุหนึ่งของการเกิดสิว และช่วยให้ผิวละเอียดขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตามถ้าใครมีสิวขึ้นแค่นิด ๆ หน่อย ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้สูตรพวกนี้นะคะ เพราะเป็นปกติอยู่แล้วที่สิวจะขึ้นในช่วงวัยนี้ แต่ถ้าขึ้นเยอะมากจนเสียความมั่นใจ สามารถใช้ได้เลยค่ะ
ก่อนที่เราจะไปดูผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจกัน เราอยากให้น้อง ๆ ทำความรู้จักกับสภาพผิวที่เปลี่ยนไปของตัวเองกันเสียก่อนค่ะ เวลาดูแลผิวจะได้ดูแลได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย ส่วนจะมีรายละเอียดอะไรบ้าง ตามอ่านได้จากด้านล่างนี้เลยค่ะ
เชื่อว่าปัญหาอันดับ 1 สำหรับน้อง ๆ ในวัยนี้ คือ “สิว” เพราะสมดุลฮอร์โมนของร่างกายเปลี่ยนไปเพื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาว ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติมาก ๆ เลยค่ะ พอถึงช่วงหนึ่ง สิวเหล่านี้ก็จะหายไป จึงไม่ต้องกังวลจนเครียดกันไปนะคะ ที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงการแกะการบีบด้วย เพราะจะยิ่งทำให้หน้าเป็นรอยหรือเกิดหลุมสิว แล้วทีนี้ก็ต้องเสียเงินรักษากันแบบระยะยาวเลยล่ะค่ะ
ดังนั้น น้องจึงควรศึกษาวิธีการดูแลตัวเองขั้นพื้นฐานเอาไว้ด้วย เพื่อเป็นการดูแลผิวในระดับนึง เริ่มจาก “การล้างหน้า” ขอแนะนำให้ล้างหน้าแค่วันละ 2-3 ครั้งพอ ไม่ควรมากกว่านี้ เพราะถ้าล้างมากเกินไปจะทำให้ผิวหน้าเสียสมดุลความชุ่มชื้น ผิวหนังจะยิ่งผลิตน้ำมัน (Sebum) ออกมามากขึ้นอีก ยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะอุดตันรูขุมขนจนเกิดสิวได้ ขณะเดียวกัน เกราะป้องกันผิวก็จะอ่อนแอลงด้วย ทำให้ผิวบอบบางแพ้ง่ายขึ้น
เมื่อล้างหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติบรรเทาอาการสิวหรือยับยั้งเชื้อสิว ซึ่งควรจะมีเนื้อที่บางเบา ซึมง่าย แต่ต้องให้ความชุ่มชื้นในปริมาณที่พอเหมาะด้วย เพราะ “ความชุ่มชื้น คือ พื้นฐานของการมีสุขภาพผิวที่ดี”
เกร็ดน่ารู้ : “ความเครียด” ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สิวแย่ลง แม้จะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงยากในวัยที่ต้องอ่านหนังสือแบบนี้ แต่จุดนี้ต้องระวังกันด้วยนะคะ
ไม่ว่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่เราใช้จะอ่อนโยนแค่ไหน สุดท้ายแล้วน้ำมัน (Sebum) ที่ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นและเป็นเกราะป้องกันผิวของเราจะถูกชะล้างออกไป ดังนั้น เราจึงควรบำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อช่วยรักษาสมดุลดังกล่าว เพื่อให้ผิวมีสุขภาพดี คราวนี้ปัญหาสิวหรืออาการแพ้ง่ายต่าง ๆ ก็จะเกิดขึ้นได้ยากแล้วค่ะ
เกร็ดน่ารู้ : สำหรับใครที่คิดว่าหลายขั้นตอนจังเลย ขอไม่บำรุงได้ไหม ต้องขอบอกเลยว่าให้อดทนนิดนึงนะคะ เพราะถ้าเมื่อไรที่เป็นสิว ยิ่งถ้ามีรอยหรือหลุมสิวด้วยแล้ว จะรักษายากและต้องใช้เวลานานด้วย ดังนั้น ควรรีบดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ นั่นเอง
มาถึงหัวข้อที่น้อง ๆ รอคอยกันแล้ว แต่ก่อนจะไปอ่านกัน ต้องขอย้ำนิดนึงว่า “เลือกสูตรที่เหมาะกับผิวเรานะคะ” เพราะบางครั้งสูตรที่ได้รับความนิยมสูงอาจไม่ถูกกับผิวหน้าของเราก็ได้ และอย่าลืมคำนึงเรื่องราคากันด้วย ถ้าพร้อมแล้วก็ไปอ่านกันเลยค่ะ!
เห็นราคาแล้วหลายคนคงสนใจ ซึ่งสูตรนี้เค้าไม่ได้มีดีแค่เรื่องราคา แต่ยังมีส่วนผสมของ 3 สารสกัดจากธรรมชาติ ได้แก่ ดอกกุหลาบ ที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว กระตุ้นให้ผิวนุ่มฟู, เมือกหอยทาก ที่ช่วยฟื้นฟูผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบของผิวหนัง และว่านหางจระเข้ ที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวที่ต้องโดนแดดบ่อย ๆ เหมือนน้อง ๆ วัยเรียน โดยจากเสียงรีวิวส่วนใหญ่บอกว่าใช้แล้วผิวละเอียดขึ้น หน้าเนียนนุ่มและดูสดใสขึ้นมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาแล้วถือว่าคุ้มค่าทีเดียวค่ะ
ชื่อภาษาญี่ปุ่นอาจจะจำยากไปสำหรับคนไทย หลายคนเลยตั้งชื่อเล่นให้น้ำตบยี่ห้อนี้ว่า “น้ำตบสาเก” เพราะสกัดมาจากสาเก อุดมไปด้วยกรดอะมิโนมากถึง 18 ชนิด ช่วยฟื้นฟูผิว ยกกระชับ และบำรุงให้กระจ่างใส เหมาะกับคนที่มีสภาพผิวธรรมดา-ผิวมัน ปราศจากสี และมิเนอรัล ออยล์ เนื้อผลิตภัณฑ์ใส ซึมซาบสู่ผิวได้ไว มีกลิ่นหอมสาเกอ่อน ๆ ใช้ได้ทั้งใบหน้าและร่างกายเลย หลายคนที่ลองใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องสัมผัสได้ว่าผิวเนียนนุ่มขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น แถมขวดนี้ยังมาในปริมาณที่เยอะ เมื่อกับราคาแล้วถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ เลยค่ะ
ใครผิวแห้งหรือขาดการดูแลต้องรีบซื้อสูตรนี้เลยค่ะ เพราะมีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid ทั้ง 5 ชนิด จึงมีพลังในการคืนความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งเสียจากการขาดการดูแล ให้กลับมามีสุขภาพดี เนียนละเอียด รูขุมขนกระชับ และนุ่มนวลมากขึ้น หลายคนที่ใช้จริงต่างบอกว่าได้ผลลัพธ์จริง โดยตัวน้ำตบไม่แต่งสี ไม่ใส่น้ำหอม และไม่มีน้ำมัน จึงค่อนข้างอ่อนโยนต่อผิวมากทีเดียวค่ะ อย่างไรก็ตาม ตัวนี้ราคาอาจจะเกินงบไปสักนิด แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเค้ามีไซซ์เล็กที่ราคาถูกกว่าให้ซื้อใช้กันด้วย
สูตรนี้แตกต่างจากอันดับก่อนหน้าตรงที่มีส่วนผสมของ Ceramide ค่ะ แต่มีส่วนผสมหลักจากสาเกเหมือนกัน เพียงแค่จะเน้นการให้ความชุ่มชื้นที่มากขึ้นอีกเป็นพิเศษ เหมาะกับผู้ที่มีสภาพผิวแห้ง-แพ้ง่าย ตัวนี้ก็ปราศจากสีและมิเนอรัล ออยล์เช่นกัน พร้อมค่า pH Balance ใกล้เคียงกับผิว จึงค่อนข้างอ่อนโยน ตัวน้ำตบจะมีสีขาวขุ่น ซึมซาบไว สามารถใช้ได้ทั้งใบหน้าและร่างกาย มีกลิ่นหอมสาเกอ่อน ๆ และแน่นอนว่า ขวดนี้มาในปริมาณที่เยอะ เมื่อกับราคาแล้วถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ ตอบโจทย์น้อง ๆ ผิวแห้ง ผิวบอบบางได้นาน ๆ เลยค่ะ
น้ำตบจากแบรนด์ที่โด่งดังเรื่องสกินแคร์รักษาสิว มีส่วนผสมของวิตามินหลายชนิด ช่วยปรับสมดุลให้ผิวกลับมามีสุขภาพที่ดี และแน่นอนค่ะ จุดเด่นของตัวนี้ คือ ป้องกันการเกิดสิวใหม่และบรรเทาให้สิวที่มีอยู่ลดลง พร้อมช่วยควบคุมสมดุลความมัน และให้ความชุ่มชื้นที่เหมาะสมกับผิว ทั้งยังช่วยกระชับรูขุมขนได้ดี และทำให้ผิวแน่นขึ้น ดูอิ่มน้ำมากขึ้น ปราศจากสีสังเคราะห์, น้ำหอม และมิเนรอล ออยล์ ตัวน้ำตบมีสีใส ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ จากรีวิวของคนส่วนใหญ่การันตีแล้วว่าใช้แล้วเห็นผลจริงในเรื่องสิว
น้ำตบที่ถูกล่ำลือกันว่าเป็นคู่แฝดกับอีกแบรนด์หนึ่งที่มีราคาสูงกว่ามาก มีจุดเด่นอยู่ที่มีส่วนผสมของ Galactomyces หรือพิเทร่าเข้มข้นถึง 96.5% สารสกัดที่ได้จากการหมักบ่มยีสต์ชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยกรดอะมิโนชนิดต่าง ๆ ช่วยฟื้นฟูผิวและปรับสมดุล บำรุงให้เนียนละเอียด กระชับรูขุมขนให้เล็กลง และช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า คืนสุขภาพผิวที่ดีให้กับน้อง ๆ ที่ต้องโดนแดดหรือมลภาวะเยอะ ๆ ขณะเดียวกันบางคนที่ใช้จริงก็บอกว่าช่วยให้รอยดำ รอยแดงจากสิวจางเร็วขึ้นด้วย แต่แนะนำว่าให้ใช้อย่างต่อเนื่องนะคะ ถึงจะเห็นผลชัดเจน
อีกหนึ่งตัวจาก Hada Labo ที่ได้รับการรีวิวจากหลายเว็บไซต์อย่างล้นหลาม เป็นสูตรสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวธรรมดา บำรุงผิวด้วย Hyaluronic Acid 4 ชนิดที่มีขนาดต่างกัน ช่วยคืนความชุ่มชื้นและช่วยรักษาระดับน้ำใต้ผิวไว้ให้ยาวนาน พร้อมด้วยเทคโนโลยี HPP&M ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงให้ลึกขึ้น โดยปราศจากน้ำมันแร่ น้ำหอมและสี เนื่องจากตัวน้ำตบมีอนุภาคเล็ก จึงซึมสู่ผิวไว ไม่เหนอะหนะ หลังจากใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องสัมผัสได้ว่าผิวมีสุขภาพดีขึ้นจริง ๆ (สำหรับใครที่กลัวว่าจะให้ความชุ่มชื้นมากเกินไป แบรนด์มีสูตร Light สำหรับผิวมันหรือผิวผสมด้วยนะคะ)
หลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า “น้ำตบลูกเดือย” เนื่องจากมีส่วนผสมหลักจากลูกเดือย ที่อุดมไปด้วยวิตามินบี, โปรตีน และกรดอะมิโน เพื่อช่วยฟื้นฟูผิว เติมเต็มความชุ่มชื้น พร้อมบำรุงให้เนียนนุ่มและแลดูอิ่มน้ำมากขึ้น สามารถใช้งานได้หลายอย่างทั้งเป็นสเปรย์ฉีดหน้าหรือเทใส่สำลีแผ่นและมาส์กทิ้งไว้บนใบหน้าก็ยังได้ ตัวเนื้อมีสีออกขาวขุ่น ทาแล้วซึมซาบไวและไม่เหนียวเหนอะหนะ และต้องแอบบอกเลยว่า แบรนด์ดัง ๆ ตามเคาน์เตอร์หลายแบรนด์ก็ใช้ส่วนผสมธรรมชาติอย่างลูกเดือยในการผลิตเอสเซนส์ด้วย ฉะนั้น เมื่อเทียบกับราคาแล้วถือว่าตัวนี้คุ้มมากทีเดียว
มาที่น้ำตบจาก Garnier ที่จะช่วยตอบโจทย์น้อง ๆ วัยนี้ได้ดี เพราะมาด้วยสูตรลดสิว โดยมีส่วนผสมหลักจากดอกวิซ ฮาเซล และ Zinc บริสุทธิ์ ช่วยควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน จัดการปัญหาสิว ลดรอยแดง (ทั้งจากสิวและผิวแห้งระคายเคือง) ที่สำคัญ เป็นสูตรไฮโปแอลเลอร์เจนิก เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือมีแนวโน้มเป็นสิว ได้รับการทดสอบ Non-Comedogenic Test แล้วว่าไม่อุดตัน ตัวน้ำตบไม่มีสี (สีใส) เนื้อบางเบา ทาแล้วซึมซาบไว ไม่เหนอะหนะ หลังใช้สักระยะนึงจะสัมผัสได้ว่าสิวและรอยแดงลดลงได้ดีทีเดียว แถมยังมาในราคาเป็นมิตรมาก ๆ เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกสำหรับน้อง ๆ ผิวมันเลยค่ะ
มาถึงอันดับ 1 จาก Hada Labo เช่นกัน ที่ดูแล้วตอบโจทย์น้อง ๆ วัยนี้มาก เพราะเค้ามาด้วยสูตรที่ลดสาเหตุการเกิดสิวโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับคนผิวมันหรือผู้ที่มีปัญหาสิวมาก เพราะมีส่วนผสมของสารสกัดฮาโตมูกิ, โฮตูเนีย คอดาต้า และดอกคาโมมายล์ ที่อุดมไปด้วย Glycyrrhizic Acid ช่วยลดการอักเสบของผิวและลดรอยแดงจากสิวให้ดีขึ้น ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ส่วนผสมของ Hyaluronic Acid ที่จะช่วยบำรุงฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้นจากมลภาวะต่าง ๆ ที่ต้องเจอในชีวิตประจำวัน ฟังดูแล้วเหมาะกับวัยนี้เป็นอย่างดี ทั้งยังปราศจากน้ำหอม, สีสังเคราะห์ และมิเนรอล ออยล์ด้วย ผู้ที่ใช้จริงรีวิวว่าสิวยุบ รอยดำจางลง และผิวหน้าแข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ
เชื่อว่ามีน้อง ๆ หลายคนที่ไม่เคยใช้น้ำตบมาก่อน วันนี้เราเลยมีข้อแนะนำและข้อควรระวังมาให้อ่านกันด้วยค่ะ เพื่อที่ทุกคนจะได้บำรุงผิวอย่างถูกต้องและปลอดภัย
อันดับแรกที่ควรรู้ คือ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ควรลงน้ำตบคือหลังล้างหน้าทันทีค่ะ เพราะผิวจะซึมซับความชุ่มชื้นได้ดีในช่วงเวลาดังกล่าว แม้ว่าจะมีละอองน้ำเกาะอยู่ก็ตาม เนื่องจากน้ำสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย จึงไม่ขัดขวางการทำงานของน้ำตบ
ลำดับต่อมา คือ เรื่องของปริมาณที่ควรใช้ใน 1 ครั้ง ปกติแล้วควรใช้น้ำตบปริมาณเท่ากับเหรียญ 10 บาทก็เพียงพอแล้วค่ะ โดยลูบไล้ให้ทั่วหน้าอย่างเบามือแล้ววางมือตามบริเวณต่าง ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 วินาที เพื่อให้ความร้อนของมือกระตุ้นให้ตัวน้ำตบซึมซาบสู่ผิวได้ง่ายขึ้น
สำหรับใครที่ต้องการทาโลชั่นหรือสกินแคร์เนื้อน้ำนมต่อ แนะนำให้ทาหลังจากที่น้ำตบซึมซาบสู่ผิวเรียบร้อยแล้วนะคะ อย่างไรก็ตาม ในตอนเช้า ๆ บางคนอาจไม่มีเวลามากพอ แนะนำให้เลือกซื้อน้ำตบที่รวมคุณสมบัติของหลายสกินแคร์เข้าไว้ด้วยกันเพื่อลดขั้นตอนการบำรุงนะคะ
นอกจากการลงน้ำตบแล้ว การล้างหน้าอย่างถูกวิธีก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำตบทางอ้อมค่ะ โดยก่อนล้างหน้าเราควรล้างมือให้สะอาดเสียก่อน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน หากใครใช่สบู่ก่อนแนะนำให้ซื้อตะข่ายตีฟองมาถู เพื่อให้เกิดฟองโฟมเนื้อนุ่ม หรือถ้าใครใช้โฟม แนะนำให้ซื้อสูตร Whip Foam เพราะเนื้อฟองโฟมจะเนียนนุ่ม ละมุนไปกับผิว ทำให้ผิวถูกรบกวนน้อย
อีกข้อที่ควรระวัง คือ การตบหน้าตอนลงน้ำตบ เพราะแม้ว่าจะช่วยให้น้ำตบซึมซาบเร็วขึ้นและทำให้รูขุมขนกระชับ แต่ถ้าใช้แรงมากเกินไปอาจทำให้ผิวช้ำจนเกินปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้นั่นเองค่ะ
สำหรับใครที่ใช้โทนเนอร์ก่อนลงน้ำตบ หากเกิดอาการแดงหรือคัน ให้ลดแรงตอนใช้สำลีเช็ดหน้านะคะ และล้างมือให้สะอาดก่อนลงน้ำตบ เพื่อรักษาความสะอาด
มาถึงบทส่งท้ายของเรา เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ตอนนี้ได้น้ำตบที่เหมาะกับตัวเองกันรึยังคะน้อง ๆสุดท้ายนี้อย่าลืมคำนึงถึงราคาและส่วนผสมต่าง ๆ ด้วยนะคะ ควรหลีกเลี่ยงสูตร Whitening และถ้าใครผิวแห้งหรือแพ้ง่ายก็ไม่ควรใช้สูตรที่มีแอลกอฮอล์ ไม่อย่างนั้นสุขภาพผิวจะยิ่งแย่ลงได้
ก่อนจะจากกัน อยากจะเตือนน้อง ๆ นิดนึงว่า ควรเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์และร้านที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัยนะคะ ถ้าอยากรู้ว่าสินค้านั้น ๆ มี อย. จริงหรือเปล่าก็ไม่ยากเลย เพียงแค่นำเลขใบจดแจ้งที่อยู่บนผลิตภัณฑ์ไปค้นหาในเว็บนี้ได้เลยค่ะ https://oryor.com/oryor2015/check_product.php