เซราไมด์ (Ceramide) จัดเป็นสารที่มีความจำเป็นต่อผิว เพราะทำหน้าที่ช่วยรักษาสมดุลน้ำระหว่างเซลล์ผิวและรักษาความชุ่มชื้นบนผิว ลดการสูญเสียน้ำและความแห้งกร้านบนผิวอันเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวอ่อนแอตามมาได้ ช่วยจัดระเบียบเคราติน (Keratin) บนผิวทำให้ผิวของคุณนั้นยืดหยุ่นและดูอ่อนเยาว์ และเป็นเกราะป้องกันผิวของคุณจากสิ่งเร้าหรือมลภาวะภายนอกต่าง ๆ เพื่อให้ผิวของคุณแข็งแรง ไม่เกิดการแพ้ได้ง่าย
ในปัจจุบันมีน้ำตบหลายยี่ห้อที่ใช้เซราไมด์เป็นส่วนผสมเพื่อให้คุณได้บำรุงผิวอย่างเข้มข้นตั้งแต่ขั้นตอนแรกหลังการล้างหน้า ทั้งนี้น้ำตบเซราไมด์นั้นมีหลายยี่ห้อไม่ว่าจะเป็น Curel, Paula's Choice และอื่น ๆ ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกและรวบรวม 10 อันดับน้ำตบเซราไมด์ที่ขายดีเป็นที่นิยมมาให้ได้อ่านกันอีกด้วย
มาดูกันดีกว่าค่ะว่าวิธีการเลือกน้ำตบเซราไมด์ให้เหมาะกับผิวของคุณจะมีอะไรบ้าง
เซราไมด์นั้นมีหลายประเภทได้แก่
1. Human Ceramide
2. Natural Ceramide
3. Plant Ceramide
4. Synthetic Pseudo Ceramide
โดยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและความเหมาะสมที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเราต้องศึกษาให้ดีว่าชนิดไหนที่จะทำงานเข้ากับสภาพผิวของเราได้ดีที่สุด
Human Ceramide เป็นเซราไมด์ที่ให้ความชุ่มชื้นสูงและซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับเซราไมด์บนชั้นผิวของเรามากที่สุด จึงไม่ทิ้งความเหนียวเอาไว้บนผิว ปลอดภัยแม้กระทั่งในผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ส่วนผสมเซราไมด์ที่จัดอยู่ในประเภทนี้มักจะมีเลขตามหลัง Ceramide เช่น Ceramide 1 หรือจะเป็นตัวอักษรตามหลังอย่าง Ceramide NP ก็ได้
ในขณะที่ Natural Ceramide เป็นเซราไมด์ที่ได้จากน้ำมันม้าและมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ Human Ceramide ซึ่งสามารถซึมลงสู่ผิวได้ง่ายเช่นกัน แต่มักจะมีราคาค่อนข้างสูง ส่วน Plant Ceramide เป็นเซราไมด์ที่ได้จากพืช เช่น ถั่วเหลือง ข้าวและข้าวสาลี เป็นต้น ทั้งนี้ใครที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่ายอาจจะต้องระมัดระวังการแพ้เซราไมด์จากพืช
ส่วน Synthetic Pseudo Ceramide นั้นมีคุณสมบัติที่แม้จะด้อยกว่าเซราไมด์ประเภทอื่น แต่เพราะมีราคาที่ถูกกว่าเซราไมด์ประเภทอื่น ๆ เช่นกัน จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้เซราไมด์บำรุงผิวในปริมาณที่มาก
Ceramide 1, 2, 3 และ 6 หรือที่บางครั้งเราก็เรียกว่า Ceramide OP, NG, NP เป็นเซราไมด์ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ๆ ในกลุ่มของ Human Ceramide ซึ่ง Ceramide 1 นั้นมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นและเป็นเกราะป้องกันผิวได้อย่างดีเยี่ยม ในขณะที่ Ceramide 2 นั้นมีปริมาณมากที่สุดในผิวหนังของเรา ซึ่งมีหน้าที่ในการเติมเต็มน้ำให้กับผิวและเป็นเกราะเสริมผิว
ส่วน Ceramide 3 เป็นเซราไมด์ที่เกี่ยวกับเรื่องริ้วรอยเนื่องจากสามารถช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับริ้วรอยที่เกิดจากความแห้งกร้านได้ Ceramide 6 นั้นมีผลในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิวให้เกิดความเรียบเนียน
นอกจากเซราไมด์แล้ว ยังต้องมองหาส่วนผสมอื่น ๆ ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่ควรจะมีอยู่ในตัวน้ำตบด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกรดไฮยาลูโรนิค คอลลาเจน กรดอะมิโน รวมทั้ง Lipidure® ที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความชุ่มชื้นมากกว่ากรดไฮยาลูโรนิคได้มากถึง 2 เท่า ซึ่งโดยปกติ Lipidure® จะถูกระบุในรูปของ Polyquaternium-51 / Polyquaternium-61 ที่ตรงส่วนผสมของผลิตภัณฑ์
ส่วนผสมบางชนิดสามารถก่อให้เกิดความระคายเคืองผิวและทำให้ผิวนั้นเกิดความแห้งกร้านได้ ดังนั้นเราจะต้องระมัดระวังส่วนผสมเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์เพราะนอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพของเซราไมด์ในผลิตภัณฑ์นั้นด้อยลงไปแล้ว ยังทำให้ผิวของคุณเกิดอาการแพ้ตามมาได้ เช่น น้ำหอม สี รวมถึงแอลกอฮอล์อีกด้วย
เซราไมด์นั้นเป็นส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน จึงมีเนื้อผลิตภัณฑ์ที่หนาและหนักสำหรับผิว ดังนั้นใครที่ไม่ชอบความเหนียวเหนอะหนะหรือมีผิวมันมาก ๆ ควรจะเลือกชนิดที่เป็นเนื้อโลชั่น วิธีการเลือกน้ำตบจากเนื้อผลิตภัณฑ์ควรจะเลือกโดยการอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงควบคู่ไปด้วยเพื่อให้ได้น้ำตบที่เหมาะสมถูกใจเรามากที่สุด
หลังจากที่รู้จักวิธีการเลือกน้ำตบเซราไมด์ให้เหมาะกับผิวของเราแล้ว มาดูกันดีกว่าค่ะว่า 10 อันดับ น้ำตบเซราไมด์ที่เป็นที่นิยมและสามารถหาซื้อออนไลน์ได้จะมียี่ห้อไหนกันบ้าง
น้ำตบตัวนี้มีส่วนผสมของ Ceramide 3 ที่สามารถดูดซึมลงสู่ผิวได้อย่างดีเยี่ยม ทำงานเสริมควบคู่ไปกับวิตามินบี 12 ที่มีพลังในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวของคุณนั้นดูกระจ่างใสและดูเปล่งปลั่ง แก้ไขปัญหาผิวแห้งกร้านและป้องกันผิวเกิดการเสื่อมสภาพก่อนวัย
ความเห็นผู้ใช้ชื่นชอบที่เนื้อผลิตภัณฑ์มีความบางเบาซึมลงสู่ผิวได้อย่างง่าย แก้ปัญหาผิวแห้งเป็นขุยได้อย่างดี แต่ในผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของวิตามินเอ หากใครที่มีผิวบอบบาง ควรหลีกเลี่ยง
นาทีนี้ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักและคุ้นเคยกับน้ำตบสาเกตัวนี้ที่ไม่ได้มีดีแค่ส่วนผสมของสาเกเพียงอย่างเดียว แต่ยังมี Ceramide 3 และ 6 เป็นส่วนประกอบซึ่งจัดได้ว่าเป็น Human Ceramide ซึ่งสามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างดี ยังมีส่วนผสมของ Arbutin ช่วยในเรื่องความกระจ่างใส และ Placenta Extract ช่วยป้องกันเรื่องริ้วรอยได้อีกด้วย
ความเห็นผู้ใช้นั้นชื่นชอบปริมาณที่มากอัดแน่นเต็มขวดถึง 500 ml ของน้ำตบตัวนี้ ทำให้สามารถใช้งานได้นานและมีราคาที่ไม่แพง สามารถให้ความชุ่มชื้นได้อย่างดีเยี่ยม แต่บางส่วนติงในเรื่องของกลิ่นที่ค่อนข้างฉุนและเนื้อสัมผัสที่หนักจนอาจทำให้หน้ามันเยิ้มได้
น้ำตบตัวนี้ทาง LANEIGE แบรนด์ดังจากเกาหลีได้ใช้ส่วนผสมเซราไมด์พิเศษที่คิดค้นขึ้นมาให้มีโครงสร้างคล้ายกับเซราไมด์ธรรมชาติ ให้สามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างดียิ่งขึ้น มีส่วนผสมของ Sodium Hyaluronate ที่บำรุงเพิ่มความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน มีสารสกัดฟลาโวนอยด์ที่ให้ผิวกลับมามีชีวิตชีวา
ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ชอบเนื้อสัมผัสเจลบางเบาของน้ำตบที่ซึมลงสู่ผิวได้ง่าย แต่ก็ยังสามารถเคลือบรักษาความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้อย่างดี แต่ตัวน้ำตบไม่ได้เป็น Hypoallergenic เพราะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ดังนั้นใครที่มีผิวบอบบาง เกิดความระคายเคืองได้โดยง่าย ควรจะหลีกเลี่ยง หรือทดสอบการแพ้ก่อนใช้จริง
น้ำตบตัวนี้มีทั้งส่วนผสมของ Curel Ceramide ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายกับเซราไมด์ตามธรรมชาติที่สามารถเสริมชั้นผิวและยังใช้ Sebum Control Technology ที่ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน ลดการอุดตันในรูขุมขน ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส ไร้สิวเสี้ยน สิวอุดตัน
ผู้ใช้ส่วนใหญ่ชื่นชอบเนื้อน้ำตบที่มีความบางเบา สามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันผิวก็ยังดูนุ่มชุ่มชื้น พบว่าปัญหาความส่วนเกินบนใบหน้าระหว่างวันลดน้อยลง อีกทั้งยังชอบที่น้ำตบเป็นสูตร Hypoallergenic ปราศจากน้ำหอม สี แอลกอฮอล์ และไม่อุดตันรูขุมขน ที่เป็นมิตรต่อผู้มีผิวบอบบาง
น้ำตบแบรนด์ดังจากอเมริกาที่ใช้ส่วนผสมหลักคือ Ceramide 3 เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นและสร้างเกราะป้องกันเซลล์ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวนั้นดูนุ่มเนียนมากขึ้นกว่าที่เคย ทำให้ผิวที่เคยประสบปัญหาต่าง ๆ กลับมาแข็งแรงและมีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น
ผู้ใช้ชื่นชอบเนื้อบางเบาของตัวน้ำตบที่สามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องกังวลเรื่องความมันเยิ้มที่จะเกิดขึ้นหลังจากใช้ ให้ความรู้สึกเย็นสบายผิว ใช้แล้วเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ไม่ใช้ส่วนผสมของน้ำหอมสังเคราะห์ที่อาจก่อให้เกิดความระคายเคืองผิวแต่ใช้กลิ่นหอมจากดอกไม้ธรรมชาติที่ให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ แทน
แบรนด์ CUREL เป็นเวชสำอางอันดับ 1 จากญี่ปุ่น เน้นผลิตภัณฑ์ปราศจากสารระคายเคืองต่าง ๆ เช่นเดียวกับน้ำตบตัวนี้ที่ใช้ CUREL Ceramide ซึ่งเป็นเซราไมด์ที่ทางแบรนด์ได้คิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะ มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับเซราไมด์ธรรมชาติ อีกทั้งยังใช้สารสกัดจากยูคาลิปตัสมากระตุ้นการสร้างเซราไมด์ในชั้นผิวอีกด้วย
ความเห็นผู้ใช้โดยส่วนใหญ่ชอบที่ตัวน้ำตบไร้กลิ่นและสีต่าง ๆ รวมทั้งแอลกอฮอล์ เนื้อผลิตภัณฑ์มีความเบาและซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวและทุกเวลา หลาย ๆ คนพบว่าผิวดูนุ่มฟูมากขึ้น ไม่ทำให้แพ้หรือระคายเคือง
น้ำตบแบรนด์ดังจากเกาหลีที่ผสานคุณค่าของ Ceramide หลากหลายชนิด รวมไปถึง Ceramide ที่พบได้มากในผิวของเราอย่าง Ceramide 3 หรือ Ceramide NP พร้อมทั้งยังมีกรด Hyaluronic ถึง 3 ชนิดผสมเข้ากับน้ำแร่บริสุทธิ์จากฝรั่งเศส ที่ช่วยเรื่องการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวโดยเฉพาะ
ความเห็นผู้ใช้โดยส่วนใหญ่ชอบเนื้อสัมผัสที่บางเบาสามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว จึงสามารถใช้ได้ในทุกสภาพผิวและทุกเวลา ไม่ต้องกังวลว่าจะทิ้งคราบความมันเหนอะไว้บนหน้า จัดเป็นน้ำตบที่ส่วนผสมเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ใครที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้
น้ำตบจากแบรนด์ดังเกาหลีตัวนี้มีส่วนผสมที่ประกอบไปด้วย Ceramide เข้มข้นมากถึง 5,000 ppb สามารถเข้าซ่อมแซมและเป็นเกราะป้องกันผิวได้อย่างดี เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวนั้นนุ่มนิ่มเหมือนโมจิ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นอย่างกรด Hyaluronic และสารลดความระคายเคืองอย่าง Centella Asiatica หรือใบบัวบกอีกด้วย
ความเห็นผู้ใช้ถูกใจที่ตัวน้ำตบมีปริมาณไซซ์ใหญ่จุใจถึง 500 ml ในราคาที่ไม่แพงทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน รวมทั้งตัวผลิตภัณฑ์มีความเป็น Hypoallergenic ทำให้ผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ เนื้อผลิตภัณฑ์มีความหนัก ใช้เพียงนิดเดียวก็สามารถให้ความชุ่มชื้นได้เพียงพอทั่วใบหน้า
หากพูดถึงเซราไมด์แล้วไม่พูดถึงน้ำตบจากแบรนด์ Dr.JART+ ไม่ได้ เพราะน้ำตบตัวนี้ได้ใช้ส่วนผสมอย่าง +5-Cera Complex ซึ่งเป็นการรวมเอาเซราไมด์ที่มีประโยชน์ต่อผิวไว้มากถึง 5 ชนิดกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Ceramide NP, Ceramide AS, Ceramide AP, Ceramide NS หรือ Ceramide EOP
ผู้ใช้ส่วนใหญ่นอกจากจะชื่นชอบจำนวนชนิดของเซราไมด์ที่ใส่มาในน้ำตบแล้ว ยังชื่นชอบที่มีการใส่ส่วนผสมที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นอย่าง Sodium Hyaluronate รวมทั้งมี Centella Asiatica Extract หรือใบบัวบก และ Panthenol หรือวิตามินบี 5 ที่ช่วยลดการอักเสบและฟื้นฟูผิวได้เป็นอย่างดี เนื้อผลิตภัณฑ์มีความเข้มข้นแต่สามารถซึมลงสู่ผิวได้เป็นอย่างดี หลายคนพบว่าหลังใช้แล้ว ผิวมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น
น้ำตบตัวดังที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ถึง 3 ชนิด ได้แก่ Ceramide 1, 3, 6II ที่สามารถซึมลงบำรุงผิวได้ เสริมสร้างเกราะป้องกันชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น และแข็งแรงมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารสำคัญอย่าง Niacinamide ที่ช่วยกระชับรูขุมขนได้ ทำให้ผิวเนียนเรียบมากขึ้น ควบคุมความมันส่วนเกินได้อย่างดี
น้ำตบตัวนี้ได้รับคำชมอย่างล้นหลามในเรื่องของเนื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความบางเบาและสามารถซึมลงสู่ผิวได้เป็นอย่างดี หลาย ๆ คนยังชื่นชอบที่น้ำตบมีสารลดอาการแดงและอักเสบของสิวได้ อีกทั้งยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระถึงหลายตัว ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ปราศจากสารระคายเคืองต่าง ๆ ดังนั้นใครที่มีผิวบอบบางก็สามารถใช้ได้
หลังจากที่รู้ถึงวิธีการเลือกน้ำตบเซราไมด์ไปแล้วมาดูกันดีกว่าค่ะว่าน้ำตบเซราไมด์มีวิธีการใช้อย่างไร
การล้างทำความสะอาดผิวหน้าควรจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่สามารถขจัดความสกปรกและความมันบนใบหน้าได้อย่างหมดจด ในขณะเดียวกันก็ควรจะต้องมีความอ่อนโยนต่อผิวและไม่ทำให้ผิวเกิดความแห้งตึงจนทำลายความชุ่มชื้นบนผิว และไม่ควรถูผิวหน้าอย่างรุนแรงในขั้นตอนการทำความสะอาด ควรตีโฟมล้างหน้าให้เป็นฟองและใช้ฟองนี้ในการดึงสิ่งสกปรกออกมา ซึ่งเป็นวิธีการที่ดีกว่าการใช้มือถูกับผิวหน้าโดยตรงเพราะอาจจะทำให้ผิวหน้าเกิดริ้วรอยได้
ผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ ท่านได้แนะนำให้ใช้น้ำอุ่น ๆ ในการล้างทำความสะอาดผิวหน้า โดยอุณหภูมินั้นควรจะอยู่ที่ 32 องศาเซลเซียส เพราะความมันส่วนเกินบนผิวหน้านั้นสามารถหลุดสลายจากผิวหน้าของเราที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส และไม่ควรจะใช้น้ำที่ร้อนมากเกินไป เนื่องจากจะทำให้ผิวเกิดความแห้งกร้านได้
หลังจากล้างหน้าและทาน้ำตบเซราไมด์ลงบนผิวแล้ว ให้ใช้มือของเราลูบและตบนวดเบา ๆ บนผิวเพื่อให้น้ำตบเซราไมด์สามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างดีที่สุด หลีกเลี่ยงการเช็ดถูและตบอย่างรุนแรง เพราะจะทำให้ผิวของคุณเกิดความระคายเคืองหรือริ้วรอยได้
หากอยากให้น้ำตบเซราไมด์ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราขอแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น Serum หรือครีมบำรุงในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเดียวกัน เพื่อให้การบำรุงดูแลผิวของคุณนั้นมีประโยชน์สูงที่สุด เพราะผู้ผลิตมักจะออกแบบกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมาอย่างคำนึงถึงประสิทธิภาพการทำงานเข้ากันเป็นอย่างดี และไม่มีส่วนผสมที่ทำงานขัดแย้งกัน
หากคุณไปใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ นอกกลุ่มที่ผู้ผลิตออกแบบมา อาจจะมีส่วนผสมที่ไม่สามารถทำงานเข้ากันได้ จนทำให้การใช้น้ำตบเซราไมด์นั้นไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดหวัง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับน้ำตบเซราไมด์ที่เราได้นำเสนอทั้งวิธีการเลือก เคล็ดลับการใช้ และ 10 อันดับน้ำตบเซราไมด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากตามเว็บออนไลน์ที่เราได้รวบรวมมาให้ทุกคนได้อ่านกันในวันนี้ เราก็หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้คุณใช้ในการเลือกซื้อน้ำตบเซราไมด์มาใช้ดูสักขวดนะคะ รับรองได้ว่าผิวของคุณจะนุ่มชุ่มชื้นและแข็งแรงมากขึ้น
การใช้น้ำตบเซราไมด์เป็น 1 ในขั้นตอนการบำรุงผิวที่ควรต้องทำควบคู่ไปกับการการดูแลรักษาความสะอาดของผิว และการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงอื่น ๆ ไปด้วยอย่างเหมาะสม อีกทั้งอาหารที่รับประทานและพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็มีผลต่อผิวของเราด้วยเช่นกัน ดังนั้นขอแนะนำให้คุณศึกษาเพิ่มเติมถึงวิธีการดูแลผิวที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ เพียงเท่านี้การมีผิวสวยใสก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป