Evara 0
Evara 0

Line @Little-Shop

Happy Mother's Day. Big Sale Up to 40%

Evara 0
Evara 0
Our location
Log In / Sign Up
(+66) - 83742 - 24xx
Home บล๊อก รถเข็นเด็กและอุปกรณ์เสริม

5 เทรนด์ รถเข็นเด็กและอุปกรณ์เสริม รุ่นไหนดี กด!! อัพเดทล่าสุดปี 2567

By Blogger Sep 29 2024
ซื้อทุกอย่างที่ร้านออนไลน์ สินค้าดีๆ มากมายรอให้คุณเลือก พร้อมโปรโมชั่นอีกเพียบ สินค้าหลากหลายประเภท ยกทัพมาลดราคา ถูกกว่านี้ไม่มีแล้ว ช้อปง่ายและสะดวก ช้อปปิ้งออนไลน์ ตลาดขายของออนไลน์ บริการ: ซื้อของออนไลน์ ส่งทั่วไทย, โปรโมชั่นเพียบ
มาแล้ว สั่งซื้อได้เลย ราคาที่ไม่แพง เราขอแนะนำ รถเข็นเด็กและอุปกรณ์เสริม  สินค้าทางอินเตอร์เน็ต  จากร้านค้า Online ที่ถู๊กถูกและเยี่ยมที่สุดในไทย สั่ง รถเข็นเด็กและอุปกรณ์เสริม  ไป ราคาถุกจริงๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง สินค้าดีๆ ราคาถุก จัดส่งรวดเร็ว คุณภาพเกินราคา ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่มีปัญหา

     
คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากรถเข็นเด็กและอุปกรณ์เสริม มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง รถเข็นเด็กและอุปกรณ์เสริม และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา รถเข็นเด็กและอุปกรณ์เสริม วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ รถเข็นเด็กและอุปกรณ์เสริมยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!

รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี? ราคาไม่แพง พับได้ พกพาสะดวก
พ่อแม่ที่พาลูกน้อยเดินทางไปไหนมาไหนบ่อย ๆ รถเข็นเด็ก เป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแสนสบายสำหรับลูกน้อย จะนั่งหรือนอนก็สบายและปลอดภัย ไม่ต้องอุ้มกันจนเมื่อยแขนปวดหลัง การเลือกรถเข็นเด็กอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะต้องเลือกให้เหมาะกับช่วงวัย ราคาก็ไม่ใช่น้อย ๆ มีรถเข็นเด็กหลายแบบไม่รู้ว่าจะพิจารณาเลือกแบบไหนดี เรามีคำตอบให้ดังนี้
  • รถเข็นเด็กอ่อน ผลิตตามอายุและน้ำหนักตัว ตั้งแต่เด็กแรกเกิดที่ตัวเล็กมาก ต้องเลือกแบบที่พอดีตัว คอของเด็กอ่อนยังไม่แข็งควรนั่งรถเข็นในท่านอน เมื่อชันคอได้แล้วจึงปรับระดับรถเข็นให้เหมาะสมกับท่านั่งของเด็กได้ มีสายรัดป้องกันตัวลื่นไหล มีระบบเบรกป้องกันรถไหล ช่วยให้เด็กนอนหลับในรถเข็นเด็กได้อย่างปลอดภัยและมีสุขภาพดี
  • รถเข็นเด็กแฝด สำหรับครอบครัวที่มีลูกแฝดง่ายที่จะพาลูกน้อยทั้งสองคนออกไปนอกบ้านได้ง่าย รองรับน้ำหนักได้มากกว่ารถเข็นเด็กทั่วไป ด้วยความที่รถเข็นมีหน้ากว้างเป็นสองเท่าจึงไม่คล่องตัว มีข้อจำกัดการใช้งานในที่แคบอย่างเช่นลิฟต์หรือประตู อาจจะเลือกรถเข็นแฝดที่แยกเป็นสองคันได้ เพื่อความสะดวกในการแยกเด็กไปคนละทาง สำหรับรถเข็นเด็กแบบ 2 ที่นั่งซ้อนกันหน้าหลัง ใช้ได้ทั้งกับเด็กแฝดหรือลูกสองคนที่เกิดหัวปีท้ายปีหรืออายุไล่เลี่ยกัน ข้อดีคือเข้าทางเดินแคบ ๆ ได้ ข้อเสียคือที่นั่งด้านหน้าปรับได้ไม่มากนักเพราะติดคนนั่งด้านหลัง ลูก ๆ จะงอแงอยากนั่งหน้า การอุ้มลูกจากรถเข็นแบบนี้ก็ไม่ง่ายด้วย
    • ตัวอย่างเช่น รถเข็นเด็กแฝดที่นั่งคู่ รุ่น Bestborn รับน้ำหนักได้ข้างละประมาณ 20- 25 กิโลกรัม พับเก็บได้ มีสายรัดนิรภัย ราคาประมาณ 4,000-5,000 บาท
    • อีกรุ่นคือ รถเข็นเด็กแฝดที่นั่งหน้าและหลัง รุ่น Papachoice ปรับเอนนอนได้ 180 องศาหรือแบบนอนราบ มีความทนทานมาก ปลอดภัยสำหรับทารก มีสายรัดนิรภัย ราคาประมาณ 3,000-5,000 บาท
  • รถเข็นเด็กโต เหมาะสำหรับลูกเดินเองได้ อายุ 2 ขวบขึ้นไป แต่ยังเดินไม่เก่ง รถเข็นเด็ก ควรรองรับน้ำหนักได้เกิน 15 กิโลกรัม เบาะนอนค่อนข้างยาวและกว้าง รองรับเด็กอายุ 4-5 ขวบได้สบาย รถเข็นบางรุ่นรองรับตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงเด็กโตความสูง 100 เซนติเมตรได้สบาย โครงสร้างใหญ่จึงต้องมีฟังก์ชั่นพับได้แบนและเล็กช่วยให้พกพาสะดวก ลงทุนซื้อคันเดียวคุ้ม แต่เนื่องจากราคาค่อนข้างสูง คุณแม่หลายคนอาจไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องใช้รถเข็นเด็กโต สนนราคาขึ้นอยู่กับเกรดของสินค้าตั้งแต่ 6,000 บาทจนถึงหลักหมื่น
    • ตัวอย่างเช่น รุ่น Joie Stroller Litetrax 4 Ember ราคา 12,500 บาท เหมาะสำหรับเด็กวัยแรกเกิดขึ้นไป เบาะกว้างและวางคาร์ซีทบนเบาะนั่งได้ พับเก็บง่าย มีบาร์กั้นที่ถอดออกได้ รองรับน้ำหนักได้ถึง 15 กิโลกรัม
    • หรือรุ่น BABY JOGGER 22,000 บาท มีจุดเด่นที่ระบบโช๊ค อ่อนนุ่มเป็นพิเศษ พับเก็บได้ง่าย สะดวกรวดเร็วด้วยมือเดียว รับน้ำหนักได้ 23 กิโลกรัม
  • รถเข็นเด็ก 3 ล้อ รถเข็นเด็กแบบจักรยานสามล้อ มีทั้งรุ่นนั่งคนเดียวและรุ่นนั่งได้ 2 คน ประกอบด้วย 2 ล้อหลังขนาดใหญ่ และล้อหน้า 1 ล้อ ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือการทรงตัวดีเยี่ยม คุณแม่พาลูกน้อยนั่งเข็นไปได้ทุกที่ทุกสภาพผิวถนน ล้อใหญ่เข็นง่าย มีความคล่องตัวและไม่ส่งแรงกระแทกมากทำให้ลูกน้อยนั่งสบาย
    • ตัวอย่างเช่น รุ่น Baby Boo ราคาเริ่มต้นหลักร้อยเท่านั้น รถเข็นเด็กแบบนั่งคนเดียวเป็นรถเข็นขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เบาะนิ่ม โครงสร้างแข็งแรงและพับได้ รองรับน้ำหนักได้ถึง 50 กิโลกรัม
    • อีกรุ่นคือ Forever ราคาระหว่าง 5,9000-9,000 บาท ดีไซน์ทันสมัยเกรดเอ จุดเด่นคือ 2 ที่นั่งหมุนให้หันหน้าเข้าหากัน หรือเบาะนั่งแบบหน้าและหลังได้ รองรับเด็กทารกอายุ 6 เดือนจนถึงเด็กโต 7 ปี มีร่มบังแดดได้ด้วย
  • รถเข็นเด็กพับได้ มีทั้งแบบรถเข็นเด็กอ่อนและเด็กโต บางรุ่นพับแล้วเหลือเท่ากระเป๋าเป้เท่านั้นเอง เก็บขึ้นท้ายรถหรือแม้แต่พับเก็บขึ้นเครื่องบินได้เลย ควรเลือกโครงสร้างที่แข็งแรงเมื่อพับแล้วไม่เสี่ยงหักชำรุดง่าย
    • ตัวอย่างเช่น รถเข็นเด็ก ขนาดพกพา รุ่น Keenz Air Plus รถเข็นเด็กขนาดพกพา ราคา 10,650 บาท ลงทุนครั้งเดียวแล้วคุ้มเพราะใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ 4 ขวบ รองรับน้ำหนักของลูกน้อยได้ถึง 60 กิโลกรัม รวมสัมภาระที่ใส่ใต้รถเข็นด้วย น้ำหนักรถเข็นรวมไม่ถึง 7 กิโลกรัม พับง่ายด้วยมือเดียว เมื่อพับแล้วขนย้ายได้สบายและไม่หนักจนเกินไป พร้อมหลังคาขนาดใหญ่คลุมได้รอบคัน
  • รถเข็นก้านร่ม เป็นรถเข็นทั่วไปที่มีที่จับแบบก้านร่ม ขนาดกระชับมือเข็นง่ายช่วยให้การเคลื่อนตัวหรือการเลี้ยวคล่องตัวขึ้น โครงสร้างรถเข็นเด็กขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาและพกพาสะดวก ข้อเสียคือรองรับน้ำหนักได้ไม่มาก ปรับเอนเบาะราบไม่ได้ เนื่องจากรถเข็นแบบนี้ราคาย่อมเยา ตัวอย่างเช่น รุ่น Baby Stroller ราคา 1,500 บาท เน้นความสะดวกสบายทั้งการเข็น พับเก็บและพกพา ข้อเสียคือโครงสร้างเรียบง่ายและวัสดุที่ใช้ไม่แน่นหนา ไม่เหมาะกับเด็กอ่อนที่ยังคอไม่แข็ง กระดูกหลังยังไม่แข็งแรง และการทรงตัวยังไม่ดีพอ อย่างน้อยต้องมีอายุ 6 เดือนขึ้นไปจนถึง 3 ขวบ
ปัจจุบันพ่อแม่รุ่นใหม่เลือกซื้อรถเข็นเด็กมาเป็นอุปกรณ์ช่วยผ่อนแรง ทั้งสะดวกสบายและปลอดภัยเหมาะสำหรับการเดินทางพาลูกน้อยไปไหนต่อไหน พ่อแม่ไม่ต้องอุ้มให้เหนื่อย รถเข็นเด็กมีให้เลือกหลายรุ่น แต่ละรุ่นราคาไม่ได้ถูกมากนักจำเป็นต้องเลือกแบบเผื่อโต รองรับการใช้งานตั้งแต่เด็กอ่อนไปจนถึง 4-5 ขวบ แน่นอนว่าจะต้องมี อุปกรณ์เสริมรถเข็น อย่างเช่นเบาะรองนั่งที่ช่วยกระชับตัวเด็กไม่ให้เลื่อนไหลตกจากรถเข็น รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่ามากขึ้น ดังนี้
  • เบาะรองรถเข็น เป็นเบาะขนาดเล็กที่กระชับพอดีตัวลูกน้อย มีเข็มขัดนิรภัยคาดรอบตัวเด็กเหมือนกับเบาะนิรภัยสำหรับเด็กในรถยนต์ มีตะขอเกี่ยวเบาะให้ยึดติดกับรถเข็นแน่นหนา เบาะทำจากวัสดุผ้านุ่ม บุฟองน้ำและใยโพลีเอสเตอร์ด้านใน มีการระบายอากาศได้ดีช่วยระบายความร้อนและป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ทำให้นั่งนอนสบายและดีต่อสุขภาพทารก บริเวณศีรษะออกแบบให้กระชับไม่โคลงเคลง มีรุ่นที่เหมาะกับเด็กอ่อนที่ยังคอไม่แข็งและชันคอไม่ได้ เป็นตัวช่วยพยุงตัวหัวเด็กไม่ให้ส่ายไปมาขณะที่เข็นรถและป้องกันการกระแทกด้วย
  • ร่มติดรถเข็น เป็น อุปกรณ์เสริมรถเข็น ที่มีทั้งร่มกันแดดและที่เสียบร่ม เลือกขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของก้านจับร่มที่ต้องการ ติดตั้งกับรถเข็นเด็กหรือรถจักรยานช่วยป้องกันลูกน้อยในวันแดดจัดและฝนตก ขาจับร่มดัดโค้งงอให้ได้ 180 องศาตามความเหมาะสมในการใช้งาน เมื่อไม่ต้องการใช้ก็ถอดออกได้ไม่เกะกะ
  • พัดลมติดรถเข็น แนะนำให้เลือกใช้ใบพัดแบบโฟมนิ่ม จับได้แม้ในขณะใบพัดหมุน ไม่เป็นอันตรายกับเด็ก มีตัวหนีบสำหรับหนีบติดกับรถเข็นเด็ก ปรับระดับแรงลมได้ ระดับความแรงของพัดลมเย็นสบายไม่ต้องกลัวร้อนหรือกลัวยุง ปรับหมุนองศาได้ ชาร์จแบตเตอรี่ง่าย ๆ และใช้งานได้นานหลายชั่วโมง
  • กระเป๋าติดรถเข็น คุณแม่ไม่ต้องหอบกระเป๋าสะพายใบใหญ่ให้เกะกะเพิ่มความสะดวกสบายเวลาเดินทางกับลูกน้อย เลือกวัสดุที่ทนทานและกันน้ำได้ดี มีช่องเก็บของหลายช่อง กระเป๋าด้านในกว้างจุของจุกจิกได้มาก มีช่องใส่ขวดนมเพิ่มความสะดวก เพียงแขวนกระเป๋าอเนกประสงค์กับรถเข็นเด็ก ก็จะช่วยเก็บสัมภาระได้ทั้งของคุณแม่และลูกน้อย มีสายล็อกที่แน่นหนา กระเป๋าปิดสนิทป้องกันสัมภาระตกหล่นออกมา
  • ผ้าคลุมรถเข็น เป็นผ้าคลุมสำหรับกันแดด กันฝน กันฝุ่นละออง ใช้ได้กับรถเข็นเด็กทุกรุ่นทุกขนาด ทำจากวัสดุคุณภาพดีมีความทนทาน กันน้ำดีเยี่ยมและทำความสะอาดได้ง่าย นอกจากคลุมรถไม่ให้สกปรกง่ายแล้วยังคลุมรถเข็นในขณะที่ลูกน้อยยังอยู่บนรถเข็นได้ด้วย มีซิปรูดเปิดและปิดอย่างง่ายดาย เหมาะกับวันที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ถ้าใช้ผ้าคลุมที่ป้องกันรังสี UV ได้ด้วยจะดีมาก
อุปกรณ์เสริมรถเข็น มีตัวเลือกมากมาย เช่น ปลอกมือติดตรงที่จับรถเข็นช่วยยืดอายุการใช้งาน ที่วางแก้วน้ำหรือขวดนมติดคลิปหนีบง่ายและมีความแข็งแรงทนทาน หมอนรองคอสำหรับลูกน้อยพกติดตัวไปได้ทุกที่ ใช้ในรถเข็นเด็กแทนหมอนและใช้ในคาร์ซีทได้ ทุกชิ้นควรเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ติดตั้งได้อย่างแน่นหนา รวมทั้งถอดออกทำความสะอาดได้